พ.ต.อ.สมพร แดงดี รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า กรณีที่นายอรรถวุฒิ มีการตัดต่อแก้ไขตัวเลขฉลากกินแบ่งรัฐบาล ต้องดูว่านายอรรถวุฒิ จงใจที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดหรือไม่ หรือทำให้ทางกองสลากกินแบ่งรัฐบาลเกิดความเสียหาย จากที่ตรวจสอบเบื้องต้นนายอรรถวุฒิ ไม่ได้มีเจตนาในทางไม่ดี เป็นเพียงการโพสต์เพื่อความสนุกสนานในกลุ่มเพื่อนสมาชิกของตัวเอง และไม่มีบุคคลใดได้รับความเสียหายจากการที่ นายอรรถวุฒิ โพสต์ จึงไม่ได้เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่ถ้ากองสลากได้รับความเสียหายจากการโพสต์ในครั้งนี้ ก็สามารถเอาผิดในข้อหา นำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการอันน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ได้
ขณะนี้ยังไม่เห็นว่าเขาทำผิดอะไร จึงยังไม่เข้าไปตรวจสอบ ยกเว้นแต่ทางตำรวจจะเห็นว่าเข้าข่ายความผิดจริง จึงจะเข้าไปตรวจสอบ เราต้องดูที่วัตถุประสงค์เขาจริงๆ ว่าต้องการอะไร เจตนาคืออะไร ถ้าเป็นเรื่องล้อเล่นสนุกสนานก็ถือว่าไม่มีความผิด แต่ตอนนี้เท่าที่ดูก็ยังไม่มีใครได้รับความเสียหายจากการที่เขาโพสต์ลงเฟสบุ๊ค พ.ต.อ.สมพร กล่าว
นอกจากนี้รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ยังระบุอีกว่า ในปัจจุบันการกระทำผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการหมิ่นประมาทมากที่สุด เช่น การใส่ร้ายกัน การโพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่ หรือด่าทอในลักษณะที่รุนแรง คือขาดการยับยั้งชั่งใจ เห็นอะไรที่ไม่พอใจก็โพสต์ด่าทอกัน จึงทำให้เกิดการหมิ่นประมาทจนเป็นเรื่องฟ้องร้องกันขึ้น
รองลงมาเป็นเรื่องของการขายสินค้าหรือการให้บริการในอินเตอร์เน็ตหรือทางโซเชียลมีมีเดีย ในลักษณะของการฉ้อโกงหลอกลวงให้โอนเงินการซื้อสินค้าให้กับผู้กระทำผิด และเมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปให้กลับไม่ได้สินค้าตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งสินค้ามีหลากหลายประเภททั้งโทรศัพท์มือถือ และสินค้าทั่วไป รวมถึงการหลอกให้บริการเงินกู้นอกระบบ ก็จะเป็นลักษณะของการหลอกลวงขอค่าจัดการหรือค่าดำเนินการ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้ก็ไม่สามารถติดต่อได้
รูปแบบการฉ้อโกงมีหลากหลายรูปแบบมาก ซึ่งผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมาก่อนก็จะผันตัวมาเป็นผู้ต้องหาเอง เพราะรู้ช่องทางการหลอกลวง ซึ่งคนที่ตกเป็นเหยื่อเริ่มมีจำนวนสูงมากขึ้น เพราะรูปแบบนี้หลอกให้เหยื่อตัดสินใจโอนเงินให้ง่าย เพราะมีค่าดำเนินการเพียงแค่คนละ 2000-3000 บาทเท่านั้น ซึ่งดูเหมือนตัวเงินไม่เยอะแต่คนที่โดนหลอกมีจำนวนสูงขึ้นก็ทำให้มูลค่าความเสียหายสูงขึ้น รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผย