เหตุเพลิงไหม้และระเบิดที่เขตท่าเรือและอุตสาหกรรม "ปินไห่ นิว แอเรีย" ในนครเทียนจิน ของจีน เมื่อคืนวันพุธ(12 ส.ค.58) ที่นอกจากจะทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 คน และบาดเจ็บมากกว่า 700 คนแล้ว ยังสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้แก่อุตสาหกรรมหลักหลายประเภท ทั้งการบิน พลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และอื่นๆ ทั้งที่เป็นกิจการในท้องถิ่นและของต่างประเทศ โดยแม้ว่า จะไม่ได้รับความเสียหายโดยตรงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการดำเนินการของท่าเรือที่กลายเป็นอัมพาต ที่ทำให้หลายบริษัทตัดสินใจระงับการดำเนินการชั่วคราวเพื่อประเมินสถานการณ์
หลังเกิดเหตุระเบิดรุนแรง 2 ครั้ง ท่าเรือเทียนจินที่ตั้งอยู่ทางเหนือของจีน และได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของโลจิสติกส์ที่มีขนาดใหญ่กว่าฮ่องกงถึง 2 เท่า และเป็นจุดขนถ่ายรถที่สำคัญ ได้แปรสภาพเป็นสุสานรถยนต์ที่ถูกเผาเหลือแต่ซาก
สื่อท้องถิ่น รายงานว่า มีรถนำเข้าราว 10,000 คัน ได้รับความเสียหาย ในจำนวนนี้เป็นรถยนต์โฟล์คสวาเก้นของเยอรมนี 2,478 คัน และอีกกว่า 1,000 คัน เป็นรถยนต์เรโนลต์ของฝรั่งเศส นอกจากนี้ ตู้คอนเทนเนอร์จำนวนมากและอาคารหลายหลังบริเวณโกดังเก็บสารเคมีก็ถูกเผาเหลือซากเช่นกัน
ผู้เชี่ยวชาญของกองทัพกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบก๊าซพิษในจุดเกิดเหตุ ขณะที่ทีมกู้ภัยได้รับคำสั่งให้สวมชุดป้องกันอย่างรัดกุม และขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของการระเบิด และมีสารเคมีรั่วออกมาหรือไม่
ประชาชนมากกว่า 3,500 คน ต้องไปพักค้างแรมกันตามศูนย์พักพิงชั่วคราว และในจำนวนผู้บาดเจ็บหลายร้อยคน มีอยู่ 71 คน ที่อาการสาหัส
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมากกว่า 1,000 นาย, รถดับเพลิง 151 คัน, ทหาร, แพทย์และพลเรือน ต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อช่วยผู้บาดเจ็บและควบคุมเพลิง
หลังจากผ่านมาแล้ว 24 ชั่วโมง ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีและนิวเคลียร์ 271 นาย พร้อมอุปกรณ์ตรวจสอบจากกองทัพ ได้เดินทางไปยังเมืองเทียนจิน เพื่อปฏิบัติภารกิจแรกคือการตรวจสอบก๊าซพิษในอากาศ ส่วนหนังสือพิมพ์พีเพิล'ส เดลี่ ของพรรคอมมิวนิสต์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามที่จะขนย้ายโซเดียม ไซยาไนด์ จำนวน 700 ตัน ออกไป และได้เตรียมไฮโดรเจน เพอร์ออกไซด์ เพื่อขจัดสารเคมีเหล่านี้แล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ โกดังสินค้าที่ระเบิดเป็นของบริษัท รุยไห่ โลจิสติกส์ ซึ่งเก็บสารเคมีที่เป็นสารพิษหลากหลายชนิด เช่น โซเดียม ไซยาไนด์ และโทลูอีนไดไอโซไซยาเนต
ด้านบริษัทเทียนจิน พอร์ต กรุ๊ป รายงานว่า มีพนักงานหลายสิบคนที่สูญหายไป ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ได้รับแจ้งเหตุให้เข้าไปดับไฟในตอนแรก ได้เสียชีวิตไป 17 นาย หลังเกิดระเบิด ประชาชนราว 3,500 คน ถูกอพยพไปยังโรงเรียนใกล้เคียง 10 แห่ง หลังจากบ้านเรือนของได้รับความเสียหายเพราะแรงระเบิด แต่จำนวนอาจสูงถึง 6,000 คน ขณะที่ทางการนำน้ำดื่มและอาหาร, เตียงพับ 800 หลัง และผ้าขนหนู 1,600 ผืน ไปแจกจ่ายตามศูนย์พักพิง โรงแรมหลายแห่งเสนอให้บริการที่พักและอาหารฟรีแก่ผู้ประสบภัยด้วย
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้สั่งให้เร่งภารกิจค้นหาและกู้ภัย ภายใต้มาตรฐานสูงสุด เพื่อรับประกันความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กู้ภัย ส่วนนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง รับปากว่า จะสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างเปิดเผยและโปร่งใสให้สาธารณชนได้รับรู้ด้วย ซึ่งทางเมืองเทียนจิน ได้ตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ 17 แห่ง และตรวจวัดคุณภาพน้ำอีก 5 แห่ง ส่วนแหล่งระบายน้ำลงสู่ทะเลได้ถูกปิดชั่วคราว