วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการสอบปากคำ ภรรยาและลูกสาว ของ "หมอบุญ" ตั้งแต่ช่วงบ่ายโมงของวันนี้ บรรยากาศการสอบปากคำเป็นไปอย่างเคร่งเครียด โดยพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสัญญาเงินกู้ เช็ค การโอนเงิน การโอนหุ้น การเช่าห้องพัก การเซ็นลงเอกสารต่างๆในแต่ละช่วงเวลา รวมถึงประเด็นอื่นๆรวมมากกว่า 50 คำถาม
ซึ่งตลอดการสอบปากคำพบว่า ผู้ต้องหาได้ให้ทนายความตรวจ และอ่านเอกสารหลักฐานต่างๆอย่างละเอียด จึงทำให้การสอบสวนค่อนข้างนานกว่าปกติ อีกทั้งผู้ต้องหายังขอรับประทานยารักษาโรคประจำตัวในระหว่างการสอบปากคำเกือบทุกชั่วโมง
จากนั้น พนักงานสอบสวนจึงได้พักการสอบปากคำและให้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนโดยรถตู้ของสน.ห้วยขวาง นำไปฝากควบคุมตัวไว้ที่ สน. พญาไท เนื่องจากต้องควบคุมตัวกลับมาสอบปากคำอีกครั้งในช่วงสายวันพรุ่งนี้ (24 พ.ย.67) เนื่องจากยังมีประเด็นที่ต้องสอบปากคำเพิ่มเติมอีกหลายประเด็น ก่อนพิจารณานำตัวไปส่งฝากขังที่ศาลอาญา รัชดา ในช่วงเช้าของวันจันทร์ ที่ 25 พ.ย.2567
ด้าน พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า การติดตามจับกุมตัวนายแพทย์บุญ ที่ยังหลบหนีอยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน ได้ประสานไปยังกองการต่างประเทศ ให้ทำหนังสือไปยังinterpol หรือตำรวจสากล เพื่อออกหมายแดงให้ช่วยติดตามจับกุมตัวนายแพทย์บุญ มาดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนทางธุรการ และประสานงานไปยังตำรวจสากล
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมีความกังวลว่าประเทศจีนมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ พบว่ามีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่เป็นคดีอุกฉกรรจ์ ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง มีความหมิ่นเหม่ว่าจะเข้าเงื่อนไขหรือไม่ ซึ่งหากตำรวจสากลออกหมายแดงเรียบร้อยแล้ว และสืบหาตัวผู้ต้องหาได้ ก็จะทำหนังสือชี้แจงรวมถึงนำพยานหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคดีรวมถึงความเสียหายต่างๆที่เกิดขึ้นให้ทางการจีนพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง
ส่วนการออกหมายจับในล็อตที่ 2 ยืนยันว่า มีแน่นอน ขณะนี้ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยจะมุ่งเป้าไปที่เหล่าบรรดาโบรกเกอร์ที่ชักชวนผู้เสียหายร่วมลงทุนหรือกู้เงิน เพราะจากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ส่วนใหญ่ผู้เสียหายมาจากการหลงเชื่อโบรกเกอร์มากกว่า เพราะเป็นตัวแทนในการลงทุนซื้อขายหุ้นกันมาเป็นเวลานาน และถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในเปอร์เซ็นต์หรือส่วนแบ่งจากการลงทุนกับนายแพทย์บุญ จึงต้องมีส่วนรับผิดชอบในคดีดังกล่าว
ส่วนจะมีจำนวนเท่าใดอยู่กับจำนวนของผู้เสียหายที่เข้ามาแจ้งความและให้การพาดพิงไปถึงโบรกเกอร์ที่ชักชวน จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อของนายแพทย์บุญและขบวนการ สามารถเข้าแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ โดยไม่ต้องกังวลว่าคดีดังกล่าวจะเป็นคดีแพ่ง เพราะจากการตรวจสอบพยานหลักฐานพบว่าผู้ก่อเหตุมีพฤติการณ์ประสงค์ต่อทรัพย์ซึ่งถือว่าเป็นพฤติการณ์ที่เข้าข่ายความผิดในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นคดีอาญาที่สามารถดำเนินคดีได้
ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายสงสัยว่า เหตุใดจึงกันน้องสะใภ้ของนายแพทย์บุญไว้เป็นพยาน เรื่องนี้ยืนยันว่าคดีนี้ไม่มีการกันใครไว้เป็นพยาน เหลือเพียงการพิจารณาและรวบรวมพยานหลักฐานว่าบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่และพิจารณาว่าจะแจ้งข้อหาใด
ต่อมา เวลา 19.40.น ตำรวจได้นำตัวภรรยาและลูกสาว "หมอบุญ" มาขึ้นรถตู้ตำรวจที่จัดเตรียมเอาไว้ เพื่อนำไปควบคุมไว้ที่ สน.พญาไท