จากกรณี นาย อัครพณธ์ ภามจำนง อายุ 50 ปี อส. อำเภอหาดใหญ่ โมโหพนักงานเสิร์ฟเก็บโต๊ะอาหาร ทั้งที่ยังกินไม่เสร็จ ก่อนโวยวายใช้อาวุธปืนกราดยิงคนในร้านข้าวต้มแห่งหนึ่ง ริมถนนนวลแก้วอุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ กระสุนถูก สามี-ภรรยา เสียชีวิต ต่อหน้าลูกๆ ซึ่งพามาฉลองวันเกิด เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ( 22 ธ.ค.2567) เวลาประมาณ 22.00 น. เบื้องต้น มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 3 ราย
23 ธันวาคม 2567 ความคืบหน้าของคดี เมื่อช่วงเที่ยง พล.ต.ท.ปิยะวัตน์ เฉลิมศรี ผบช.9 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผบก. ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นานอำเภอหาดใหญ่ เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุที่ร้านข้าวต้ม ริมถนนนวลแก้ว พร้อมกันนี้ พล.ต.ท.ปิยะวัตน์ เฉลิมศรี ผบช.9 ได้มอบกระเช้าดอกไม้ และเงินสด ให้เจ้าของร้านโดยให้พนักงานเป็นผู้รับแทน เนื่องจากจะไปเยี่ยมด้วยตัวเอง แต่ยังเข้าเยี่ยมไม่ได้ ยังต้องรอดูอาการในห้องไอซียู
พล.ต.ท.ปิยะวัตน์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เบื้องต้น ขอแสดงความเสียใจกับผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ซึ่งเหตุเกิดประมาณเกือบ 22.00 น. ขณะนั้น ผู้ต้องหาเข้ามาในร้าน โดยมาสั่งอาหารพร้อมกับถือสุรามาด้วย และมานั่งดื่ม แต่ระหว่างดื่มได้ออกไปทำธุระ เด็กในร้านก็นึกว่ากลับแล้วก็เลยเก็บโต๊ะ และเมื่อผู้ต้องหากลับเข้ามาที่โต๊ะทำให้ไม่พอใจ จึงทำให้มีปากเสียงกัน ก่อนให้พนักงานเช็กบิลออกจากร้านไป หลังจากนั้นประมาณ 5 นาทีก็กลับมาที่ร้าน แต่ทางร้านปฏิเสธ และมีปาก มีเสียงกัน ส่วนผู้ตายนั้นก็พาครอบครัวมากินข้าว เห็นอยู่ใกล้ๆ ก็เลยไปห้ามปราม จนเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน จนมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้น เป็นอาวุธปืนของเขาเอง เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทั้งหมด
โดยเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ตนเองมานั่งกินข้าวที่ร้านที่เกิดเหตุ โดยพกเหล้าติดตัวมาด้วยประมาณครึ่งแบน หลังจากนั้น มีเพื่อนขับรถผ่านมาจึงออกไปทักทาย แต่พอเดินกลับมา พนักงานได้เก็บโต๊ะอาหารไปแล้ว ซึ่งตนยังไม่ได้เรียกเก็บเงิน จากนั้นก็ไม่ได้นั่งกินต่อ และสั่งให้เช็กบิล แล้วกลับบ้านพัก
ต่อมา มีเพื่อนชวนไปข้างนอก และได้ไปนั่งกินข้าวรอที่ร้านเดิม ได้มีเจ้าของร้าน เข้ามาถามว่าทำไมต้องชักปืนด้วย ซึ่งตอนแรกบอกไปแล้วว่าไม่ได้ชักปืน ให้ตรวจสอบกล้องวงจรปปิดได้เลย ตนทราบว่าหลังจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว ไม่พบว่ามีการชักอาวุธปืนออกมา ตนยังยกมือไหว้ เพื่อขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิด แต่เจ้าของร้านยังมาด่าทอ
ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ บอกว่า เห็นตนชักปืนออกมา จะเป็นพยานให้ และได้ด่าทออีก นายสุริยา และบาดเจ็บอีกคน พยายามมาควบคุมตัว และโทรหาตำรวจ ตัวเองมองว่าไม่ได้ทำผิดอะไร ทำไมต้องถูกด่าด้วย จึงโมโห และใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมาไล่ยิง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนอาการผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย นางสาวภาวนา (เจ้าของร้าน) ถูกยิงเข้าที่เบ้าตาอาการสาหัสต้องรอผ่าตัด ส่วนนายสุริยา ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว