ส่องผลงาน "อาคม" ก่อนนั่งรมว.คลังคนใหม่

สำหรับผลงานของนายอาคม ในยุครัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์. จันทร์โอชา 1 พบว่า ตั้งแต่ปี 2558 ที่ นายอาคม นั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่า การกระทรางคมนาคม 

ผลงานแรกที่สำคัญคือการแก้ไขปัญหาด้านการบินพลเรือน ปลดธงแดง องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ โดยได้ดำเนินการปฏิรูปกฎหมายด้านการบินที่ล้า สมัยด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2597 ในประเด็นที่เป็นข้อบกพร่อง
นอกจากนี้ยังได้ผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่หลายโครงการ อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า รวมทั้งยังผลักดันโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย เช่น ส่วนต่อสายสีน้ำเงินช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4,สายสีแดงช่วงหัวลำโพง-มหาชัย และสายสีเขียวส่วน
ต่อขยายช่วงคูคต-ลำลูกกาขณะเดียวกันได้เดินหน้าการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าใน กรุงเทพและปริมณฑลตามแผนแม่บทการขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่ทำไว้ตั้งแต่ปี 2553 โดยริเริ่มดำเนินการ 10 เส้นทางหลักตามแผนในรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าหมายเปิดครบทั้ง 10 เส้น ทางในปี 2568

นอกจากนี้ยังได้ผลักดันการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ 8 เส้นทาง และมาตราการป้องกันฝุ่นพิษ PM 2.5 การจัดทำระบบตั๋วร่วม และแผนพื้นฟูองค์การขมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)  

ต่อมาในปี 2562 สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอได้ประเมินผลงานด้าคมนาคมของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมเป็นเครื่องมือสำคัญของรัฐบาลประยุทธ์ในการพัฒนาระบบคมนาคม โดยรัฐบาลพยายามขับเคลื่อนโครงการตามแผนยุทธศาสตร์ โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ(พ.ศ. 2558-2565) วงเงิน 3 ล้านล้านบาท โดยนำโครงการใน พ.ร.บ..เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มาปรับปรุงเพิ่มเติมความสำเร็จในงานที่รับผิดชอบในรัฐบาลประยุทธ์ คือ อนุมัติโครงการลงทุนขนาดใหญ่ต่างๆ ได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนระบบราง ซึ่งเป็นผลมาจากเสถียรภาพของรัฐบาล โดยโครงการที่เกิดขึ้นรวมถึงโครงการรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งได้อนุมัติให้เริ่มก่อสร้างไปแล้ว 5 เส้นทาง เพิ่มเติมจากเส้นทางเดิมที่มีการก่อสร้างอยู่แล้ว ซึ่งจะมีผลให้มีการเปิดรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ อย่างน้อยปีละหนึ่งเส้นทาง ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป

ต่อเนื่องไปหลายปีโครงการรถไฟทางคู่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งได้อนุมัติให้เริ่มก่อสร้างไปแล้วหลายช่วง ซึ่งจะทำให้ระบบรถไฟระหว่างเมืองซึ่งเดิมเป็นทางเดี่ยว มีความจุ และมีคุณภาพของบริการที่ดีมากขึ้นในอนาคต และคาดว่าจะทำให้เกิดการลงทุนในการก่อสร้างและงานระบบกว่า 2 แสนล้านบาทต่อปี ต่อเนื่องไปตลอด 3-4 ปีข้างหน้าโดยก่อนหน้านี้ นายอาคม กล่าวไว้หลังจากที่ได้รับหน้าที่นั่งตำแหน่ง รัฐมนตรีกระทรวง คมนาคม โดยระบุว่า รู้สึกตกใจ และ ภูมิใจ ที่ได้รับความไว้วางใจเพื่อขับเคลื่อนโครงการของประเทศ ซึ่งตลอด 1,775 วันในการทำงานนั้น มีหลายโครงการที่มีการขับเคลื่อนไปมาก ถึงแม้จะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ 100% แต่ถือเป็นก้าวแรกของความสำเร็จ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ส่วนใหญ่จะสามารถเปิดให้บริการได้อย่างสมบูรณ์ในปี 2563-2564