svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สุขภาพ

หมอนิธิพัฒน์ ชี้"PM2.5"กระทบพัฒนาการสมอง-ผู้สูงอายุ พร้อมเปิดวิธีป้องกัน

"หมอนิธิพัฒน์" เตือน"PM2.5"กระทบรุนแรงกับเด็ก-ผู้สูงอายุ ส่งผลหายใจผิดปกติ กระทบพัฒนาการทางสมอง พร้อมแนะวิธีป้องกันตัวเอง ย้ำ"ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน"

8 มีนาคม 2566 สถานการณ์ฝุ่นพิษ “PM2.5” ยังคงน่ากังวลอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคุณภาพอากาศในกรุงเทพ เกินค่ามาตรฐานทุกพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะที่พื้นที่ทางภาคเหนือ กรมควบคุมมลพิษออกมาเตือนอันตราย ยังต้องรับมือวิกฤตไปอีกนานนับสัปดาห์ ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

หมอนิธิพัฒน์ ชี้\"PM2.5\"กระทบพัฒนาการสมอง-ผู้สูงอายุ พร้อมเปิดวิธีป้องกัน
ล่าสุด รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หรือ "หมอนิธิพัฒน์" หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “นิธิพัฒน์ เจียรกุล” ระบุถึงอันตรายของ "PM2.5" สุดอันตรายกับเด็กและผู้สูงอายุ พร้อมเปิดขั้นตอนการป้องกัน มีข้อความระบุว่า..

ในเมื่อประชาชนที่ควรจะเป็นใหญ่ แต่กลุ่มคนที่ไปเป็นใหญ่เขายังไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน พวกเราต้องหันมาดูแลตัวเองเพื่อลดความสูญเสียไปชั่วคราวก่อน พอถึงอีกสองเดือนข้างหน้า จะมีวันหนึ่งเรียกว่าวันเลือกตั้งทั่วไป จะมีกลุ่มคนที่เรียกว่าพรรคการเมืองยกยอให้ประชาชนเป็นใหญ่ได้หนึ่งวัน

หลังจากนั้นเขาคงถีบหัวเราส่งเช่นเคย แต่พวกเราสามารถรวมตัวกันเปลี่ยนชะตากรรมนี้ได้ เหมือนการดูแลตัวเองในสถานการณ์วิกฤตฝุ่น PM2.5 ดังนี้

หมั่นตรวจสอบคุณภาพอากาศจากแหล่งข้อมูลของรัฐและเอกชน หรือใช้เครื่องวัดปริมาณฝุ่นแบบพกพา เพื่อวางแผนกิจวัตรประจำวันให้เหมาะสม
เมื่อค่า PM2.5 ในขณะนั้น (ค่ารายชั่วโมง) ขึ้นสูงเกินเกณฑ์ คือ

  • 1. สูงกว่า 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร กลุ่มเสี่ยง (เด็ก คนท้อง ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคปอด-หัวใจ-ไต-สมองเรื้อรัง) งดทำกิจกรรมกลางแจ้ง คนทั่วไปลดและปรับเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
  • 2. สูงกว่า 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทุกคนต้องงดทำกิจกรรมกลางแจ้ง ยกเว้นคนที่ต้องทำหน้าที่บริการสาธารณะ ให้ใส่หน้ากาก N95 ตลอดเวลา
  • 3. สูงกว่า 150 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทุกคนควรอยู่ในตัวอาคารซึ่งติดตั้งระบบระบายและฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ยกเว้นคนที่ต้องทำหน้าที่บริการสาธารณะ ให้ใส่หน้ากาก N95 ตลอดเวลา และจำกัดช่วงเวลาปฏิบัติงานไม่ให้เกินครั้งละ 60 นาที

หมอนิธิพัฒน์ ชี้\"PM2.5\"กระทบพัฒนาการสมอง-ผู้สูงอายุ พร้อมเปิดวิธีป้องกัน

ขณะที่ปริมาณฝุ่นภายนอกขึ้นสูง ภายในตัวอาคารควรจัดให้มีระบบระบายและฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ

ขณะที่ปริมาณฝุ่นขึ้นสูง การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยให้ร่างกายเกิดพิษภัยได้น้อยลง หลีกเลี่ยงหรือลดเวลาการออกกำลังกายกลางแจ้งตามระดับเตือนภัยในข้อ 2. 

การออกกำลังกายในร่มควรจัดให้มีระบบระบายและฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ จะช่วยเร่งการขับฝุ่น PM2.5 ที่เล็ดรอดเข้ากระแสเลือด ออกไปทางไตในรูปของปัสสาวะได้มากขึ้น

การกินผักและผลไม้ให้เพียงพอ จะช่วยเสริมการทำงานของระบบแอนติออกซิแดนท์ ซึ่งช่วยลดการทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อจากพิษของฝุ่นได้ การอยู่ในบริเวณที่มีพืชใบเขียว จะช่วยการดูดซับฝุ่นในอากาศได้เพิ่มมากขึ้น

ถึงตรงนี้คงต้องท่องคาถา “ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน” จะไปหวังข้าราชการการเมืองและข้าราชการประจำที่ใส่เกียร์ว่างรอเลือกตั้ง คงสะบักสะบอมหนักกันไปเสียก่อน ดูคล้ายนักเตะทีมปิศาจแดงที่ถูกกล่าวหาว่าใส่เกียร์ว่างจนโดนคู่ปรับตลอดกาลถล่มยับ แต่ถ้ามองอย่างใจเป็นธรรม พวกเขาคงเหนื่อยล้าต่อเนื่องและต้องแบกรับความคาดหวังสูง ไม่เหมือนนักการเมืองไทยที่ระริกระรี้ทันทีเมื่อเสียงปี่กลองเลือกตั้งเริ่มดังขึ้น
#ปกป้องคนไทยจากPM_2_5

หมอนิธิพัฒน์ ชี้\"PM2.5\"กระทบพัฒนาการสมอง-ผู้สูงอายุ พร้อมเปิดวิธีป้องกัน
ก่อนหน้านี้ "หมอนิธิพัฒน์" ยังได้โพสต์ข้อความถึงอันตรายของ PM2.5 กับกลุ่มเยาวชนและเด็กๆ ระบุว่า..

วิงวอนผู้มีอำนาจในมือทั้งหลาย โปรดลงมือทำอะไรเพื่อพวกเราบ้าง กรุณาปกป้องเยาวชนและกลุ่มคนเปราะบางของชาติ

เช้าวันนี้อากาศรอบบ้านริมน้ำขมุกขมัวมาก สถานีวัดค่าฝุ่นที่อยู่ใกล้ในรูป PM 2.5 วัดได้ 114 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ใช้เครื่องวัดแบบพกพาวัดในพื้นที่ต่างๆ ณ บ้านริมน้ำ ค่าอยู่ระหว่าง 104-122 สูงสุดตรงจุดติดถนนกลางบ้าน หน้ากากอย่าลืมใส่กันทั้งวันเลย 

สงสารเด็กนักเรียนข้างบ้านริมน้ำ วันนี้เขาควรเรียนออนไลน์ที่บ้าน ใจสลายเมื่อเห็นนักเรียนคลุกฝุ่น ไม่ต่างแฟนปิศาจแดงที่ถูกเย้ยหยันจนฝุ่นฟุ้ง

หลัง call out ให้พวกมีอำนาจหันมาสนใจ ทั้งที่รู้ว่าเขาสนใจเรื่องอื่นกันมากกว่า ได้ทบทวนข้อมูลทางวิชาการเพิ่มเติม พบบทความเรื่องผลของ PM2.5 ต่อทารกในครรภ์จนถึงวัยเด็กเล็ก ยิ่งตอกย้ำความเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว ดีกว่าการย้ำกรอกหูประชาชนให้ “ดูแลตนเอง” (แนบลิงก์ >> Early-Life Exposure to PM2.5 and Sleep Disturbances in Preschoolers from 551 Cities of China )

จากการติดตามเด็กอนุบาลจำนวน 115,023 คน จาก 551 เมืองในประเทศจีน พบว่าการสัมผัสฝุ่น PM2.5 ที่สูงตั้งแต่ในครรภ์จนถึงวัยเด็กเล็ก สัมพันธ์กับการมีคุณภาพการนอนในวัยเด็กที่แย่ลง โดยเฉพาะถ้าสัมผัสกับฝุ่นที่สูงในช่วงอายุ 0-3 ปีจะเกิดมากกว่าถ้าสัมผัสในช่วงที่ยังไม่คลอดออกมา ความผิดปกติที่เกิดขึ้นทำให้เด็กมีปัญหาการหายใจผิดปกติระหว่างการนอน และภาวะง่วงนอนมากตอนกลางวัน เด็กที่แรกคลอดไม่แข็งแรงต้องเข้าไอซียูจะพบความผิดปกติได้มากขึ้น ที่น่าแปลกใจคือเด็กที่กินนมแม่จนถึง 6 เดือน ก็พบความผิดปกติมากขึ้นด้วย (คิดเอาเองว่าอาจได้รับ PM2.5 เพิ่มทางน้ำนมแม่)

ในฐานะหมอโรคปอดและหมอโรคจากการนอนหลับ สุขภาวะการนอนของเด็กที่ถูกรบกวนโดยเฉพาะการหายใจผิดปกติระหว่างการนอน อาจทำให้พัฒนาการทางสมองถูกกระทบกระเทือนตามไปด้วย
ว่าแต่จะมีใคร “รู้หน้าที่” ทำเพื่ออนาคตเยาวชนของชาติเราบ้าง
#ควบคุมฝุ่นปกป้องสมองเด็ก


ที่มา : เฟซบุ๊ก “นิธิพัฒน์ เจียรกุล”