7 พฤศจิกายน 2567 ที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด (Howard University) ในกรุงวอชิงตัน ดีซี "กมลา แฮร์ริส" รองประธานาธิบดี ขึ้นเวที บอกกับผู้สนับสนุนให้สู้ต่อไป ในขณะที่ตัวเธอเองกลั้นน้ำตา ขณะกล่าวยอมรับความพ่ายแพ้
โดยเธอปล่อยเวลาล่วงเลยไปเกือบ 12 ชั่วโมง หลัง "โดนัลด์ ทรัมป์" ได้รับการประกาศให้เป็นผู้ชนะอย่างเป็นทางการ ก่อนจะขึ้นเวทีและบอกผู้สนับสนุนว่า
"ผลการเลือกตั้งไม่ใช่สิ่งที่พวกเราต้องการ ไม่ใช่สิ่งเราต่อสู้เพื่อ ไม่ใช่สิ่งที่เราลงคะแนนให้ แต่โปรดฟังที่ดิฉันพูด แสงสว่างแห่งคำสัญญาของอเมริกาจะส่องสว่างอยู่เสมอ" .....
"แม้ดิฉันจะยอมรับความพ่ายแพ้นี้ แต่ดิฉันจะไม่ยอมพ่ายแพ้ในการต่อสู้ที่กระตุ้นให้เกิดแคมเปญนี้"
เธอบอกว่า ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ "ทรัมป์" และยินดีกับชัยขนะของเขา และเธอจะช่วยเหลือให้การเปลี่ยนผ่านอำนาจให้ดำเนินไปโดยสันติ ซึ่งเธอเน้นย้ำว่า นี่เป็นพื้นฐานของประชาธิปไตยของสหรัฐฯ ที่เมื่อแพ้แล้วก็ต้องยอมรับผล เป็นเส้นแบ่งที่นิยามความต่างระหว่างประชาธิปไตยกับระบอบทรราชย์
เธอยังบอกให้ผู้สนับสนุนมองโลกในแง่ดี ไม่ยอมแพ้ และไม่ล้มเลิกการต่อสู้เพื่ออุดมคติที่ยึดถือ เช่น สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน, สิทธิในร่างกายของผู้หญิง หรือโรงเรียนที่ปลอดภัยจากอาวุธปืน
ผู้สื่อข่าวจับสังเกตได้ว่า น้ำเสียงของเธอสั่นเครือในบางครั้ง เช่นเดียวกับ ทิม วอลซ์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี คู่กับเธอ ที่พยายามกลั้นน้ำตาเช่นกัน ส่วน ดั๊ก เอมฮอร์ฟฟ์ สามีของแฮร์ริส ได้ยืนให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
แฮร์ริส ได้ขอบคุณ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน, ครอบครัว ทีมงานและผู้สนับสนุนเธอ
และย้ำความภาคภูมิใจในแคมเปญหาเสียงของเธอ ซึ่งแฮร์ริสได้กลายเป็นสถิติใหม่ของทรัมป์ ที่เอาชนะคู่แข่งที่เป็นผู้หญิงแล้ว 2 คน คนแรกคือ ฮิลลารี คลินตัน ที่เขาเอาชนะในการเลือกตั้งเมื่อปี 2016