อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับซินแคลร์ มีเดีย กรุ๊ป และเมื่อถูกถามว่า เขาคาดว่าจะลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกครั้งหรือไม่ หากพ่ายแพ้ให้กับรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส เขาตอบว่า ไม่คิดว่าจะลงสมัครอีก แต่ก็หวังว่า จะประสบชัยชนะในครั้งนี้
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ภายในเวลา 4 วัน ที่ทรัมป์พูดถึงโอกาสแพ้เลือกตั้ง หลังจากทรัมป์กล่าวในงานที่จัดโดยสภาอเมริกัน-อิสราเอล เมื่อวันพฤหัสบดีว่า หากเขาแพ้เลือกตั้ง ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวยิวโหวตให้ศัตรู ความเห็นนี้ทำให้ถูกประณามจากทีมหาเสียงของแฮร์ริส และคณะกรรมการชาวอเมริกันเชื้อสายยิว และสันนิบาตต่อต้านการหมิ่นประมาท
ความเห็นของทรัมป์อาจสะท้อนถึงกระแสความนิยมของพรรคเดโมแครตที่กระเตื้องขึ้นนับจากแฮร์ริสกลายเป็นแคนดิเดตของพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายน หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ถอนตัวจากการแข่งขันเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม และการเลือกตั้งปีนี้เป็นการแข่งขันที่สูสีที่สุดในรอบ 60 ปี
ผลสำรวจระดับประเทศของสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีซี นิวส์ พบว่า คะแนนของแฮร์ริสทิ้งห่างทรัมป์มากขึ้นเป็น 49% -44% ในการสำรวจระดับประเทศ โดยแฮร์ริสมีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น 16 จุด นับจากเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นสถิติเพิ่มขึ้นสูงสุดในบรรดานักการเมืองที่เอ็นบีซี นิวส์ เคยทำผลสำรวจ นับตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ที่คะแนนนิยมพุ่งขึ้น หลังวินาศกรรม 9/11
นอกจากนี้ทีมหาเสียงของแฮร์ริสระดมเงินสนับสนุนได้เกือบ 190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนสิงหาคม มากกว่ายอดระดมเงินของทีมหาเสียงทรัมป์ถึง 4 เท่า ทำให้เธอมียอดเงินสดในเดือนนี้ 404 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ทรัมป์มียอดเงินสนับสนุน 295 ล้านดอลลาร์