สถานทูตสหรัฐฯ ในเลบานอน ปรับคำแนะนำการเดินทางเมื่อวันเสาร์ โดยเตือนชาวอเมริกันว่า “อย่าเดินทางไปเลบานอน สืบเนื่องจากอาชญากรรม, การก่อการร้าย, ความวุ่นวาย, การลักพาตัว, กับระเบิดที่ยังไม่ระเบิด และความเสี่ยของการสู้รบ นอกจากนี้สถานทูตแนะนำว่า ให้ประชาชนออกจากเลบานอนในขณะที่ยังมีเที่ยวบินพาณิชย์ให้บริการอยู่ เพราะทางสถานทูตอาจไม่สามารถช่วยอพยพได้
นอกจากนี้กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำเตือนระดับ 4 ที่เป็นระดับสูงสุด ระบุว่า พลเมืองสหรัฐฯ ที่อยู่ในภาคใต้ของเลบานอน ใกล้ชายแดนซีเรียหรือชุมชนผู้อพยพ ควรอพยพออกจากพื้นที่ทันที โดยอ้างเหตุโจมตีข้ามพรมแดน และการปะทะระหว่างกองกำลังฝ่ายความมั่นคงและกลุ่มสุดโต่ง ส่วนคนที่ตัดสินใจอยู่ในเลบานอนต่อไปควรเตรียมพร้อมอยู่ในที่หลบภัย หากสถานการณ์เลวร้ายลง
ขณะเดียวกันกระทรวงต่างประเทศของจอร์แดน ที่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน ประกาศให้พลเมืองเดินทางออกจากเลบานอนโดยเร็วเท่าที่เป็นไปได้
เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ เปิดเผยกับสื่อเมื่อวันเสาร์ว่า มีความเสี่ยงจริงที่อาจเกิดการยกระดับการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์
และเวลานี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่สถานการณ์รุนแรงมากกว่าครั้งอื่น ๆ อย่างไรก็ตามเขาบอกว่า ยังไม่ถึงจุดที่นำไปสู่สงครามในวงกว้างขึ้น และหวังว่าจะไม่ไปถึงจุดนั้น
สองฝ่ายยิงตอบโต้กันข้ามพรมแดนตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2563 เพียงหนึ่งวันหลังจากอิสราเอลเปิดฉากสงครามกับฮามาสในฉนวนกาซา และการโจมตีรุนแรงขึ้นในสัปดาห์นี้นับจากเกิดเหตุอุปกรณ์สื่อสารระเบิดทั่วเลบานอนช่วงต้นสัปดาห์ ที่มีผู้เสียชีวิต 39 ราย และผู้บาดเจ็บหลายพันคน และอิสราเอลโจมตีในกรุงเบรุตเมื่อวันศุกร์ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 ราย ซึ่งรวมถึงผู้บัญชาการระดับสูงของฮิซบอลเลาะห์