ชาวอิสราเอลผละงานประท้วงครั้งใหญ่ กดดันรัฐบาลนำตัวประกันกลับบ้าน

การหยุดงานประท้วงทั่วอิสราเอลเป็นไปตามคำเรียกร้องของ ฮิสตาดรุต สหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยเป็นการสไตรก์ครั้งแรกนับจากอิสราเอลเปิดฉากสงครามในฉนวนกาซาในเดือนตุลาคม เพื่อหวังให้ภาคส่วนสำคัญในระบบเศรษฐกิจต้องชัตดาวน์หรือหยุดชะงัก

หลายสายการบินต้องระงับเที่ยวบินขาออกที่สนามบินเบนกูเรียน ซึ่งเป็นสนามบินหลักของประเทศระหว่างเวลา 8.00 น.-10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้เที่ยวบินเหล่านั้นเลื่อนออกเดินทางเร็วขึ้นหรือล่าช้ากว่ากำหนด ชณะที่รถบัสและระบบรถไฟรางเบาในหลายพื้นที่ต้องงดวิ่ง หรือ วิ่งให้บริการบางเที่ยว

ส่วนแรงงานที่ท่าเรือไฮฟา ซึ่งเป็นท่าเรือพาณิชย์สำคัญ ก็ร่วมผลานประท้วง โรงพยาบาลหลายแห่งให้บริการได้บางส่วน และธนาคารหลายแห่งปิดทำการ ธุรกิจเอกชนจำนวนมากยังเปิดทำกการ แต่อนุญาตให้พนักงานเข้าร่วมการผละงานประท้วงได้ และมหาวิทยาลัยหลายแห่งประกาศเข้าร่วมการผละงานประท้วงด้วย

นอกจากนี้ผู้ประท้วงจำนวนมากรวมตัวปิดกั้นทางหลวงในนครเทลอาวีฟในวันนี้ เพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ยอมลงนามข้อตกลงหยุดยิงแลกกับการปล่อยตัวประกัน

การยกระดับการประท้วงในวันนี้มีขึ้นหลังจากทหารอิสราเอลสามารถนำศพตัวประกัน 6 ราย ออกจากอุโมงค์ในเมืองราฟาห์ในฉนวนกาซาเมื่อวันเสาร์ และกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตัวประกันทั้งหมดถูกยิงเสียชีวิตระยะเผาขนในช่วง 48-72 ชม. ก่อนทหารจะพบศพ

การสังหารอย่างโหดเหี้ยมจุดกระแสโกรธแค้นให้ประชาชนเกือบครึ่งล้านออกมาเดินขบวนในหลายเมือง รวมถึงเยรูซาเลม และเทลอาวีฟเมื่อวันอาทิตย์ และสหภาพแรงงานนัดผละงานประท้วงในวันนี้

แต่ล่าสุดศาลแรงงานมีคำสั่งให้การสไตรก์ยุติภายในเวลา 14.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วขึ้นหลายชั่วโมงกว่าที่สหภาพแรงงานฮิสตาดรุตกำหนดไว้ และสหภาพแรงงานประกาศแล้วว่า จะเคารพคำสั่งของศาล พร้อมกับแจ้งให้แรงงานทั้งหลายกลับเข้าทำงานในเวลา 14.30 น.