“พายุไต้ฝุ่นแคมี” ส่งผลน้ำท่วมหนัก-ดินถล่มในฟิลิปปินส์ ดับ 13 ราย

แม้พายุไต้ฝุ่น “แคมี” ซึ่งในฟิลิปปินส์เรียกว่า พายุ “คารินา” ไม่ได้พัดขึ้นฝั่งในฟิลิปปินส์ แต่อิทธิพลของพายุบวกกับลมมรสุมทิศตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้ฝนตกหนักยิ่งขึ้นทั้งในกรุงมะนิลาและอีกบางจังหวัดทางภาคเหนือ 

ทำเนียบประธานาธิบดีมีคำสั่งให้หน่วยราชการและโรงเรียนต้องปิดทำการ ครอบคลุมพื้นที่กรุงมะนิลาและเขตปริมณฑล ที่ประกอบด้วย 16 เมือง และมีประชากรอาศัยราว 13 ล้านคนในวันพุธ หลังจากฝนตกต่อเนื่องทำให้หลายพื้นที่จมน้ำตั้งแต่กลางดึก

บางแห่งมีน้ำท่วมสูงระดับเข่าหรือเอว รถยนต์หลายคันจอดตายกลางถนนที่กลายเป็นแม่น้ำ ประชาชนต้องใช้เรือยางเป็นพาหนะเข้าออกพื้นที่ กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวซัดตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกสินค้า ตู้เย็น เฟอร์นิเจอร์ และซากต้นไม้ ลอยไปตามน้ำ

นอกจากนี้มีรายงานฝนตกหนักทำให้เกิดดินถล่มและน้ำท่วมหลายแห่งในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศรวมอย่างน้อย 13 ราย ประชาชนราว 600,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ซึ่ง 35,000 คน ต้องไปอาศัยที่ศูนย์พักพิง

ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแจกจ่ายอาหารและความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ประสบภัยที่อยู่ห่างไกล 

ขณะที่หน่วยยามฝั่ง รายงานว่า มีผู้โดยสาร และคนขับรถบรรทุกสินค้า และแรงงานรวมกว่า 350 คน ตกค้างอยู่ตามท่าเรือหลายแห่ง หลังจากเรือเฟอร์รี และเรือสินค้าถูกห้ามออกจากฝั่งเนื่องจากทะเลมีคลื่นแรง และยามฝั่ช่วยอพยพชาวบ้านกว่า 200 คน ออกจากหมู่บ้านชายฝั่งแห่งหนึ่งในจังหวัดบาทันกาส ทางตอนใต้ของกรุงมะนิลา หลังจากคลี่นสูงซัดทำลายบ้านเรือนริมชายฝั่ง


ขณะนี้พายุแคมีที่มีความเร็วลม 155 กม./ชม. กำลังมุ่งหน้าสู่ไต้หวัน และคาดว่า ไต้หวันจะได้รับผลกระทบจนถึงวันศุกร์ ก่อนที่พายุจะเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือมุ่งหน้าไปจีน