svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

“กมลา แฮร์ริส” เป็นใคร จะชนะ “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้หรือไม่

หากรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เธอจะเป็นผู้หญิงผิวสีคนแรก และชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียคนแรกที่เป็นผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรคใหญ่ และเธอมีโอกาสชนะหรือพร้อมแค่ไหนที่จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ

“กมลา แฮร์ริส” เป็นใคร จะชนะ “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้หรือไม่

กมลา แฮร์ริส เป็นบุตรสาวของโดนัลด์ เจ แฮร์ริส นักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกันเชื้อสายจาไมกา และศยามาลา โฆปาลัญ นักชีววิทยาชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดีย เธอเติบโตในเมืองโอ๊กแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย จบการศึกษาด้านนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย  และได้รับแต่งตั้งเป็นอัยการรัฐแคลิฟอร์เนียในปี 2553 โดยเป็นผู้หญิงคนแรก คนผิวสีคนแรก และชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียคนแรกที่ดำรงตำแหน่งนี้

และการบังคับใช้กฎหมายของเธอในอดีตเป็นทั้งปัจจัยหนุนและอุปสรรคต่อการเข้าสู่การเมืองในการชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิกและประธานาธิบดี แต่เธอก็สร้างประวัติศาสตร์ โดยเป็นผู้หญิงผิวสีคนที่ 2 ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นวุฒิสมาชิกรัฐแคลิฟอร์เนียในปี 2559

นอกจากนี้แฮร์ริสเป็นหนึ่งในสมาชิกเดโมแครตกว่าสิบคน ซึ่งรวมถึงโจ ไบเดน ที่เสนอตัวเป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งปี 2563 และหลังการถอนตัว เธอกลายเป็นผู้สนับสนุนสำคัญของไบเดน จนได้รับการเสนอชื่อเป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กับไบเดน และทั้งคู่ชนะการเลือกตั้ง ทำให้แฮร์ริสกลายเป็นรองประธานาธิบดีหญิงและผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ

“กมลา แฮร์ริส” เป็นใคร จะชนะ “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้หรือไม่

และสำหรับการเสนอตัวของแฮร์ริสเพื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งปี 2567 หลังการถอนตัวของไบเดน ทำให้ถูกจับตาว่า เธอมีโอกาสแค่ไหนที่จะชนะทรัมป์ แม้ยังไม่มีโพลใหม่ที่จัดทำหลังการตัดสินใจของไบเดน แต่โพลที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า หลังจากไบเดนทำผลงานย่ำแย่ในการดีเบทเมื่อปลายเดือนมิถุนายน เธอก็มีคะแนนนิยมไล่เลี่ยหรือเหนือกว่าไบเดนเล็กน้อย เมื่อเทียบกันในแง่โอกาสชนะอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเธอยังมีคะแนนนิยมเหนือตัวเต็งคนอื่น ๆ ที่ถูกจับตาว่าอาจเป็นตัวแทนพรรคแทนไบเดนจากผลการสำรวจเมื่อเร็ว ๆ นี้

ผลสำรวจของซีบีเอส/ยูกอฟ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่า ทรัมป์มีคะแนนนิยมนำแฮร์ริส ที่ 51% ต่อ 48% และทรัมป์นำไบเดนที่ 52% ต่อ 47%

แต่ผลสำรวจของ อิโคโนมิสต์/ยูกอฟ ในเดือน ก.ค. พบว่า ไบเดนจะแพ้ทรัมป์ที่ 41% ต่อ 43%  และแฮร์ริสจะแพ้ทรัมป์ที่ 39% ต่อ 44% ซึ่งการสำรวจนี้จัดทำก่อนไบเดนเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้นให้ถอนตัว


“กมลา แฮร์ริส” เป็นใคร จะชนะ “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้หรือไม่
อย่างไรก็ตามแฮร์ริสถูกมองว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตแทนไบเดน โดยไม่มีอุปสรรคในแง่กฎหมาย และนโยบายของเธอก็สอดคล้องกับของไบเดนอยู่แล้ว นอกจากนี้เธอมีอายุ 59 ปี ซึ่งอ่อนกว่าไบเดนถึงกว่า 20 ปี และยังเป็นผู้หญิงผิวสี ที่จะทำให้เธอสามารถดึงดูดคะแนนเสียงจากประชากรกลุ่มสำคัญในฐานเสียงของพรรคเดโมแครตได้อย่างง่ายดาย

ขณะที่การทำงานในสมัยเป็นรองประธานาธิบดี เธอมีสนับสนุนนโยบายของไบเดนทั้งเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐาน ผู้อพยพ ควบคุมปืน และปกป้องสิทธิการทำแท้ง แต่คะแนนนิยมไม่ได้สูง และไม่ได้รับความสนใจจากสื่อเท่าใดนัก รวมทั้งไม่ได้อยู่ในสปอทไลท์ของเวทีการเมืองนัก

แฮร์ริสยังเผชิญความยากลำบากที่จะต้องสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อให้พวกเขาเลือกเพราะตัวเธอ ไม่ใช่เพียงเพราะไม่ต้องการทรัมป์ และขณะนี้สื่อกำลังจับตาว่าใครจะเป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของเธอ ในขณะที่เจ ดี แวนซ์ ผู้สมัครรองประธานาธิบดีของทรัมป์ ไม่น่าจะดึงคะแนนเสียงผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่ใช่ฐานเสียงของพรรคใด แต่การตัดสินใจของแฮร์ริสน่าจะมีผลต่อโอกาสในการเลือกตั้งมากกว่า