ฝรั่งเศสเลือกตั้งรอบ 2 พรรคขวาจัดส่อชนะ แต่เจอทางตัน
ชาวฝรั่งเศสใช้สิทธิเลือกตั้งทั่วไปรอบสอง ที่เป็นครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปี โดยพรรคขวาจัดส่อประสบชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ แต่มีแนวโน้มอย่างมากว่าจะนำไปสู่ภาวะชะงักงันทางการเมือง
หน่วยเลือกตั้งในฝรั่งเศสเริ่มเปิดลงคะแนนเมื่อเวลา 8.00 น. วันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 13.00 น. ตามเวลาไทย และผลเอ็กซิตโพลจะเริ่มรายงานได้ในอีก 12 ชม. ต่อมา
การเลือกตั้งทั่วไปรอบสองจัดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์ หลังจากพรรคแนชันแนล แรลลี (RN) ที่มีแนวคิดชาตินิยมและขวาจัดภายใต้การนำของมารีน เลอเปน ชนะการเลือกตั้งรอบแรก ด้วยคะแนนเสียง 33% ตามด้วยพันธมิตรพรรคเอียงซ้ายที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ภายใต้ชื่อ นิว ป็อปปูลาร์ ฟรอนท์ (NFP) มีคะแนนเสียง 28% และพันธมิตรพรรคสายกลาง อองซอมเบลอ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ได้คะแนนเสียงเพียง 21%
ชัยชนะรอบแรกของ RN ทำให้จอร์แดน บาร์เดลลา หัวหน้าพรรควัย 28 ปี ได้รับการจับตาว่าจะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หากพรรคสามารถกวาดคะแนนเสียงได้มากที่สุดในการเลือกตั้งรอบสอง
เดิมพรรค RN มีชื่อว่า แนชันแนล ฟรอนท์ นำโดยเลอเปน และมีนโยบายต่อต้านผู้อพยพอย่างชัดเจน แต่ต่อมามีการปรับโฉมใหม่ด้วยผู้นำหน้าใหม่ที่ได้รับการยอมรับมากขึ้น และลดนโยบายสุดโต่งหลายเรื่อง แต่ยืนยันว่า จะยังให้สิทธิพลเมืองฝรั่งเศสมากกว่าผู้อพยพในเรื่องการจ้างงานและที่อยู่อาศัย
แต่แนวโน้มที่ RN จะได้เป็นรัฐบาลครั้งแรกในฝรั่งเศสนับจากสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ทั้งอองซอมเบลอ และ NFP ตกลงจับมือกันเพื่อปิดโอกาสที่ RN ได้รับชัยชนะด้วยเสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎร โดยให้ผู้สมัครรวม 217 คนที่มีคะแนนเสียงในอันดับ 3 จากการเลือกตั้งรอบแรกถอนตัว ซึ่งจะทำให้พรรคสายกลางและซ้ายไม่แย่งคะแนนเสียงกันเอง และสามารถเอาชนะผู้สมัครของ RN
ขณะที่โพลล่าสุดซึ่งเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ บ่งชี้ว่า พรรค RN จะไม่สามารถคว้าที่นั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ถึง 289 ที่นั่งหรือเกินครึ่งจากทั้งหมด 577 ที่นั่ง โดยอาจได้เพียง 205-210 ที่นั่ง แต่ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 88 ที่นั่งในปัจจุบัน
แม้ประธานาธิบดีจะแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากหัวหน้าพรรคที่มี สส.ในสภามากที่สุด แต่บาร์เดลลา หัวหน้าพรรค RN ย้ำหลายครั้งว่า จะไม่จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ทำให้ประธานาธิบดีมาครงอาจต้องสรรหานายกรัฐมนตรีจากพันธมิตรฝ่ายซ้าย หรือจัดตั้งรัฐบาลผสมแห่งชาติ และแน่นอนว่า ฝรั่งเศสจะเกิดความวุ่นวายทางการเมืองนานหลายเดือน และประธานาธิบดีมาครงจะไม่สามารถยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ได้จนกว่าจะผ่านพ้นไปอย่างน้อย 1 ปี
การเลือกตั้งครั้งนี้จัดก่อนกำหนดถึง 3 ปีโดยไม่จำเป็น โดยประธานาธิบดีมาครงประกาศยุบสภา หลังจากพรรค RN ชนะการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภายุโรปในฝรั่งเศสเมื่อเดือนที่แล้ว และการตัดสินใจที่สร้างความตกใจแก่ชาวฝรั่งเศสทำให้เขาถูกวิจารณ์อย่างหนัก
กระแสประท้วงต่อต้านพรรค RN หลังการเลือกตั้งรอบแรก และความรุนแรงระหว่างการหาเสียง ที่มีผู้สมัครและทีมหาเสียงถูกทำร้าย 51 คน ทำให้ฝรั่งเศสเพิ่มการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยวิตกว่าอาจเกิดความรุนแรงทั้งในปารีส และอีกหลายเมืองไม่ว่าผลเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร และยังประกาศห้ามการชุมนุมนอกอาคารรัฐสภาในค่ำวันนี้ด้วย
