เม็กซิโกซิตี้เจอวิกฤติ "น้ำหมดเมือง" ภาวนาให้ฝนตก

ภัยแล้งกำลังเล่นงานเม็กซิโกซิตี้อย่างหนัก จากปริมาณน้ำฝนที่ต่ำและอุณหภูมิสูงติดต่อกันนานถึงสามปี กำลังจะนำไปสู้ภาวะฉุกเฉินที่เรียกว่า "Day Zero" หรือวิกฤติน้ำหมดเมือง ที่ผู้อยู่อาศัยหลายล้านคนจะไม่เหลือน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค

สถานการณ์เลวร้ายมากจนสำนักงานติดตามภัยแล้งในอเมริกาเหนือจัดให้แม็กซิโกซิตี้เป็นเขตที่มีภัยแล้งระดับ "รุนแรง" ตั้วแต่วันที่ 30 เมษายน และคาดการณ์ว่า "Day Zero" อาจเกิดขึ้นเร็วที่สุดในวันที่ 26 มิถุนายน 

รัฐบาลเม็กซิโกเปิดเผยว่า ระบบน้ำ Cutzamala ซึ่งเป็นชุดโรงบำบัด อ่างเก็บน้ำ และลำคลองที่จ่ายน้ำให้กับผู้คนประมาณ 22 ล้านคน กำลังเหือดแห้ง เหลือกำลังการผลิตเพียง 28% ซึ่งจะกระทบต่อชาวเม็กซิกันหลายล้านคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทั้งเขตตัวเมือง ปริมณฑลเม็กซิโกซิตี้ และเขตปริมณฑลหุบเขาโตลูกา

ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่พังทลายก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะปัญหาท่อรั่วและการบำรุงรักษาระบบน้ำ ที่ทำให้เม็กซิโกซิตี้ต้องสูญเสียน้ำราว 40% ไปอย่างเปล่าประโยชน์ 

ในขณะที่นักการเมืองท้องถิ่นต่างเมินเฉยต่อวิกฤติขาดแคลนน้ำมาเป็นเวลาหลายเดือน โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของเขตที่ได้รับผลกระทบอ้างว่า การจะซ่อมแซมปัญหาท่อรั่วอาจมีค่าใช้จ่ายหลายพันล้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และทางการไม่มีงบประมาณที่เพียงพอขนาดนั้น

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า สิ่งเดียวที่เม็กซิโกซิตี้ต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือน้ำฝน แต่ก็ไม่ควรเข้าใจผิดว่าเมื่อฝนตกลงมาแล้วปัญหาจะหมดไป การกักเก็บน้ำอย่างเข้มงวด การบำบัดน้ำเสียเพื่อนำมาหมุนเวียนในการเกษตร จะช่วยรักษาระดับน้ำในระบบ Cutzmala ได้ แต่ปัจจุบันพื้นที่การเกษตรส่วนใหญ่ในเม็กซิโก แทบไม่มีการใช้ระบบน้ำแบบหมุนเวียนเลย