กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคารคัดค้านการประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนหลายชนิด และยืนยันว่า จะดำเนินมาตรการอย่างเด็ดเดี่ยวเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของจีน
คำขู่ของจีนมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศในวันเดียวกันว่าจะปรับขึ้นภาษีที่ส่งผลกระทบต่อสินค้านำเข้าจากจีนหลายชนิดรวมมูลค่า 18,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมกับลงนามในคำสั่ง โดยรถยนต์ไฟฟ้าถูกปรับขึ้นภาษีมากที่สุดเป็น 100% นอกจากนี้สินค้าอื่น ๆ ที่เผชิญอัตราภาษีใหม่ที่แตกต่าง ๆ กัน มีทั้งเซมิคอนดักเตอร์ แบตเตอรี โซลาร์เซลล์ เหล็กและอลูมิเนียม เป็นต้น
ไบเดนบอกด้วยว่า จีนอุดหนุนสินค้าของตัวเอง ทำให้บริษัทจีนผลิตสินค้าออกมาปริมาณมากจนเกินความต้องการของทั่วโลก จึงใช้วิธีทุ่มตลาดด้วยราคาสินค้าที่ต่ำมากอย่างไม่เป็นธรรม ทำให้ผู้ผลิตรายอื่นทั่วโลกต้องเลิกกิจการ และเขายืนยันว่า จะไม่ยอมให้สินค้าจากจีนล้นตลาด ทำให้รถและผู้ผลิตรถของสหรัฐฯ ไม่สามารถแข่งขันได้อย่างยุติธรรม
ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน โต้แย้งเรื่องข้อกล่าวหากำลังการผลิตล้นเกิน และบอกว่า สหรัฐฯ เป็นฝ่ายใช้วิธีปกป้องทางการค้า ละเมิดหลักการของเศรษฐกิจระบบตลาด และกฎข้อบังคับทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ รวมทั้งยังมีพฤติกรรมกลั่นแกล้งทางการค้า
ในปี 2566 สหรัฐฯ นำเข้าสินค้าจากจีนรวมมูลค่า 427,000 ล้านดอลลาร์ และส่งออกสินค้าไปจีน 148,000 ล้านดอลลาร์ และยอดขาดดุลการค้าต่อเนื่องหลายสิบปีกลายเป็นประเด็นอ่อนไหวมากยิ่งขึ้นสำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์ มองว่า การปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ จะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องของจีน เพราะจีนส่งออกรถอีวีไปสหรัฐฯ น้อยมาก การตัดสินใจของสหรัฐฯ ไม่ได้คำนึงถึงเหตุผลด้านเศรษฐกิจ แต่เป็นเรื่องการเมืองที่ต้องการแสดงจุดยืนแข็งกร้าวต่อจีนในช่วงก่อนการเลือกตั้ง
ในวันเดียวกัน BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีน เปิดตัวรถ “ชาร์ค” (Shark) ซึ่งเป็นรถกระบะไฮบริดขนาดกลางในเม็กซิโก เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังการประกาศของไบเดน และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลกจากจีน เปิดตัวสินค้าใหม่นอกประเทศ
ผู้บริหารของ BYD ในอเมริกาเหนือ บอกว่า มาตรการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อบริษัทที่มีแผนสร้างโรงงานผลิตในเม็กซิโก และบริษัทมุ่งจำหน่ายสินค้าในตลาดเม็กซิโกและตลาดอื่น ๆ โดยไม่คิดจะส่งออกไปสหรัฐฯ
โรงงานใหม่คาดว่าจะมีกำลังการผลิต 150,000 คันต่อปี และคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จภายใน 2-3 ปี
ขณะที่แคทเธอรีน ไท่ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ บอกว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเรื่องภาษีอัตราใหม่และกรอบเวลาบังคับใช้ รวมทั้งต้องมีการหารือกับหลายฝ่ายว่า การปรับขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อรถอีวี และ BYD ในเม็กซิโก