โดยโจวิโรจน์ กล่าวกับ มติชนออนไลน์ ว่า วันนี้บริษัทประกาศปิดนิตยสารให้พนักงานทั้งหมดประมาณ30 คนได้รับทราบ เนื่องจากจะมีการเลิกจ้างพนักงานเกือบทั้งหมด และก็ได้จ่ายเงินให้พยักงานตามกฎหมายแรงงานทุกบาททุกสตางค์ซึ่งสาเหตุที่อิมเมจต้องปิดตัวลงนั้นเป็นเพราะสื่อสิ่งพิมพ์อยู่ในขาลง โดยตอนแรกที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากทางจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ เมื่อเดือนมิถุนายน 2558 แม้จะเข้าใจว่าธุรกิจสิ่งพิมพ์คงจะขาดทุนตามกระแสโลกในตอนนี้แต่ก็คิดว่าน่าจะขาดทุนน้อยลง ทว่าในความเป็นจริงกลับขาดทุนมากขึ้นเรื่อยๆ เดือนละหลายล้านบาทโดยไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
เราได้ประชุมผู้ถือหุ้นว่าเราควรเดินต่อไหม หรือหยุดได้บทสรุปว่ายังไงอิมเมจก็ขาดทุนหนักก็เลยหยุด แต่ตัวบริษัทหัวหนังสือยังเป็นของบริษัทอยู่ บางทีวันดีคืนดี ถ้าสิ่งพิมพ์กลับมาอาจเอามาพิมพ์ใหม่ก็ได้ ซึ่งเราคุยมานานเหมือนกัน เพิ่งมาไฟนอลกลางมี.ค. ว่าจะปิดแล้ว จริงๆ แล้วพนักงานก็ระแคะระคาย คนอยู่มานานเขาอยากได้เงินก้อนไปทำอะไรเขาก็รอว่าเมื่อไหร่ ทุกคนโอเคก็เซ็นเอกสาร ผมจ่ายเงินให้ถึงพ.ค. มีเวลาเก็บของ จากกันด้วยดี ไม่ได้ทำร้ายเขา วันดีคืนดีอยากทำหนังสือก็อาจมาร่วมงานกันวิโรจน์กล่าว
พร้อมบอกด้วยว่าสำหรับนิตยสารอีก 5 ฉบับที่ตนมีอยู่อย่าง อิน แม็กกาซีน, แม็กซิม, มาดาม ฟิกาโร่, เฮอร์เวิล์ดและแอตติจูด แม้จะขาดทุนเหมือนกัน แต่ก็เห็นว่าขาดทุนน้อยลงเรื่อยๆ เพราะมีการใช้หัวหนังสือต่อยอดไปยังธุรกิจอื่นๆจึงทำให้สามารถอยู่รอดได้ อย่างไรก็ตามสำหรับอิมเมจ ฉบับสุดท้ายที่วางขายจะเป็นฉบับเดือนพฤษภาคม
ผมว่าณ วันนี้ผมต้องหยุดการไหลของเลือดก่อน ตั้งหลักใหม่ ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ต้องห่วงกลับมาแน่นอนเมื่อไหร่ว่ากัน วิโรจน์กล่าวในที่สุด
-------------------------------------------------------------
ล่าสุด ปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทในเครือนิตยสารดิฉัน ก็ตัดสินใจใช้เวลาในการประชุมแจ้งพนักงานเพียงแค่ 5 นาที ว่าจะปิดและหยุดผลิตนิตยสาร Cosmopolitan สัญชาติอเมริกัน ฉบับภาษาไทยเป็นเล่มสุดท้ายเดือนพฤษภาคมนี้อีก
หลังจากเมื่อเดือนที่แล้วเกิดมีการปรับลดพนักงานทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ออกจากนิตยสารหัวไทยเก่าแก่อย่าง ดิฉัน กว่า 15 คน จนทำเอาผู้คนในวงการนิตยสารต่างอกสั่นขวัญเสียไปตามๆกันว่า ขนาดนิตยสารไทยหัวเก่าแก่ ยังต้องมีการเขย่าพนักงานออกมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ
ล่าสุด ปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทในเครือนิตยสารดิฉันก็ตัดสินใจใช้เวลาในการประชุมแจ้งพนักงานเพียงแค่ 5 นาที ว่าจะปิดและหยุดผลิตนิตยสารCosmopolitan สัญชาติอเมริกัน ฉบับภาษาไทยเป็นเล่มสุดท้ายเดือนพฤษภาคมนี้อีกยิ่งเป็นอาฟเตอร์ช็อกอีกระลอก
งานนี้ทำเอาพนักงานถึงกับช็อกไปตามๆกัน ถึงแม้ว่าจะได้ค่าตกใจตามอายุงานก็ตาม เพราะจริงๆ แล้วนิตยสารหัวนอกสัญชาติอเมริกันเล่มนี้ที่ผลิตเวอร์ชั่นภาษาไทยมาเกือบ20 ปี จะต้องกระเด็นหายไปจากแผงก่อนที่สัญญากับบริษัทแม่ในอเมริกาจะหมดลงในช่วงปลายปีนี้แต่งานนี้คุณปีย์กลับเลือกที่จะตัดสินใจไม่แบกรับภาระต้นทุนที่หนักขึ้นอีกต่อไป ท่ามกลางกระแสสื่อดิจิตอลที่กำลังมาเขย่าวงการสื่อสารมวลชนไทยและทั่วโลก
หลังจากนี้คงต้องจับตาดูกันอย่างใกล้ชิดว่าเล่มไหนจะอยู่หรือไป หรือจะมีกลยุทธ์เด็ดอะไรในการมาต่อสู้กับสื่อดิจิตอล และสื่อใหม่ต่างๆแต่สิ่งที่กำลังเป็นห่วง ณ ขณะนี้ คงหนีไม่พ้นคนทำงานสื่อที่มีหัวใจและจิตวิญญาณในการทำงานเพราะคงไม่คิดว่าจะต้องเผชิญกับเรื่องเหล่านี้เวลานี้ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านด้วย