svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ปตท. เล็งศึกษาลงทุน 'ไฮโดรเจน' ภาคอุตฯ รับดีมานด์พลังงานสะอาด

17 มีนาคม 2568
เกาะติดข่าวสาร >> NationTV
logoline

ปตท. เล็งลงทุนพลังงานไฮโดรเจนภาคอุตสาหกรรมในต่างประเทศ รองรับดีมานด์พลังงานสะอาดอนาคต พร้อมปรับกลยุทธ์การลงทุนรับปัญหาภูมิรัฐศาสตร์-การค้าโลกผันผวน

นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ระบุ จากปัจจัยทั่วโลกที่เผชิญทั้งปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานล้วนเป็นความท้าทายสำคัญ อีกทั้งปัจจัยเศรษฐกิจภายในประเทศ ปตท.ในฐานะบริษัทพลังงานไทยที่ต้องดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การลงทุนจะต้องใช้อย่างชาญฉลาด โดยปีที่แล้ว ปตท.มุ่งเน้นปรับกลยุทธ์การลงทุนไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ปตท.อยู่ระหว่างรีวิวเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ใหม่อีกครั้ง จากเดิมที่ตั้งเป้าหมาย Net Zero ปี 2050 ซึ่งอาจจะเน้นดูภาพรวมทั้งกลุ่มด้วย โดยความสำคัญจะอยู่ในช่วงระหว่างกลางที่จะถึงเป้าหมาย เพราะจากบริบทโลกที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะภาษีคาร์บอน จึงจะรีวิวว่าเมื่อไหร่ เหมาะสมสุดเพราะทุกกระบวนการมีต้นทุน ซึ่งอาจจะช้าหรือเร็วเป็นไปได้หมด  

ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท.อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนด้านธุรกิจไฮโดรเจนในต่างประเทศ เพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานสะอาดของภาคอุตสาหกรรมไทยในอนาคต ซึ่งเบื้องต้นจะเป็นการนำเข้าเพราะต้นทุนตะวันออกกลาง อย่าง อินเดียมีราคาที่ถูก หากมาใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมระดับแสนๆ ตัน อีกทั้ง รัฐกำหนดสัดส่วนการผสมไฮโดรเจน 5% ในปี 2030 ซึ่งหากทำได้เร็วก็สามารถทำได้
 

ปตท. เล็งศึกษาลงทุน \'ไฮโดรเจน\' ภาคอุตฯ รับดีมานด์พลังงานสะอาด ปตท. เล็งศึกษาลงทุน \'ไฮโดรเจน\' ภาคอุตฯ รับดีมานด์พลังงานสะอาด

ทั้งนี้ ปตท. มีเป้าหมายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งองค์กรแบ่งเป็น 

1. ระยะสั้น ประกอบด้วย การปรับโครงสร้าง Non-Hydrocarbon ซึ่งธุรกิจไหนทำแล้วไม่มีอนาคตก็ออกให้เร็วเพิ่มความคล่องตัวแล้วนำเงิน และเวลาไปทำสิ่งที่ถนัด โครงการ D1-Domestic Oroducts Mgmt ซึ่งมีการเพิ่มมูลค่าต่อยอดจากโครงการ P1 สามารถทำกำไรเพิ่มกว่า 3 พันล้านบาทต่อปีภายใน 3 ปี นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดต้นทุนผ่านแนวคิด MissionX - Operational Excellence เพื่อเพิ่ม EBITDA กลุ่ม ปตท. กว่า 3 หมื่นล้านบาท ภายใน 3 ปี Digital Transformation เพิ่มรายได้กว่า 2 พันล้านบาทต่อปี ภายใน 2 ปี

2. ระยะกลาง โดยจะทำการ Reshape P&R Portfolio และเดินหน้า  LNG Hub เพราะปัจจุบันไทยนำเข้า LNG รวม 10 ล้านตัน ซึ่งมองว่ายังมีดีมานด์ จึงมองว่าวิธีการเทรดดิ้งจะสร้างผลกำไรได้หลักแสนล้านบาท โดยอาจจะต้องสร้างคลังเพิ่มเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นการสนับสนุนให้อีก 30-40 ปีข้างหน้าธุรกิจกลุ่ม ปตท.จะอยู่ได้โดยไม่ต้องขวนขวายสิ่งที่ไม่ถนัด 

3. ระยะยาว ปัจจัยด้านความยั่งยืนจะเข้ามาขับเคลื่อนองค์กร ซึ่งกลุ่มปตท.จะลงทุนพัฒนาเทคโนโลยี CCS และไฮโดรเจน เพื่อเพิ่มมูลค่าธุรกิจ เป็นต้น 
 

ปตท. เล็งศึกษาลงทุน \'ไฮโดรเจน\' ภาคอุตฯ รับดีมานด์พลังงานสะอาด ปตท. เล็งศึกษาลงทุน \'ไฮโดรเจน\' ภาคอุตฯ รับดีมานด์พลังงานสะอาด

อย่างไรก็ตาม ปี 2568 ปตท. จะเน้นสร้างความมั่นคงและเติบโต โดยลดความเสี่ยงธุรกิจ สร้างเสถียรภาพทางธุรกิจจากการที่โลกมียังมีความวุ่นวาย ผันผวน รวมถึงธุรกิจที่มีอยู่ในช่วงขาลงไม่สมดุลกัน ยืนยันว่าไม่ใช่ว่า ปตท. จะไม่ลงทุนแต่การลงทุนจะดูความคุ้มทุนเพื่อสร้างการเติบโตที่ก้าวกระโดด  

ทั้งนี้ ปตท. จะแข็งแรงร่วมกับสังคมไทยอย่างยั่งยืน จะต้องคำนึงถึงมาตรการภาษีคาร์บอนซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จึงมีวิธีการลดหลายอย่างแต่สิ่งที่สำคัญคือ ทั่วโลกมองว่าก๊าซฯ เป็นเชื้อเพลิงสำคัญในช่วงเปลี่ยนผ่าน แม้อนาคตโลกจะเป็นพลังงานสะอาด แต่ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 ปี ดังนั้น จึงต้องสร้างมูลค่าเพิ่มเกี่ยวกับก๊าซฯ ถือเป็นสิ่งที่ ปตท. ถนัดและดำเนินธุรกิจในยุคโชติช่วงชัชวาลมาจนถึงปัจจุบัน

ปตท. เล็งศึกษาลงทุน \'ไฮโดรเจน\' ภาคอุตฯ รับดีมานด์พลังงานสะอาด

logoline
News Hub