svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Business

ราคาทองคำวันนี้ (27 มี.ค.) ปรับขึ้น 4 รอบ เช็กล่าสุดทองขายเท่าไร

27 มีนาคม 2568
เกาะติดข่าวสาร >> NationTV
logoline

ราคาทองคำวันนี้ (27 มี.ค.) "สมาคมค้าทองคำ" ประกาศราคาวันนี้เพิ่มขึ้น 4 รอบ สวนทางตลาดโลกปิดแดนลบ แต่ยังยืนเหนือ 3 พันดอลลาร์ เช็กทองรูปพรรณล่าสุดขายออกเท่าไร

27 มีนาคม 2568 ราคาทองวันนี้ ตามประกาศจาก สมาคมค้าทองคำ เมื่อเวลา 09.01 น. ราคาทองแท่ง ราคาทองรูปพรรณ ราคาทองคำวันนี้ ราคาเพิ่มขึ้น 50 บาท ต่อบาททองคำ โดยค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.96 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ประกาศราคาทองคำ ครั้งที่ 1

ราคาทองคำแท่ง

  • ซื้อบาทละ 48,500.00 บาท
  • ขายออกบาทละ 48,600.00 บาท

ราคาทองรูปพรรณ

  • ซื้อบาทละ 47,632.72 บาท
  • ขายออกบาทละ 49,400.00 บาท
     

ราคาทองคำวันนี้ (27 มี.ค.) ปรับขึ้น 4 รอบ เช็กล่าสุดทองขายเท่าไร
 

ไทม์ไลน์ ปรับราคาทองคำ

ประกาศราคาทองคำ ครั้งที่ 2

เมื่อเวลา 10.09 น. ปรับราคาทองคำขึ้น 50 บาท ต่อบาททองคำ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.93 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาขายทองคำ ดังนี้

ราคาทองคำแท่ง

  • ซื้อบาทละ 48,550.00 บาท
  • ขายออกบาทละ 48,650.00 บาท

ราคาทองรูปพรรณ

  • ซื้อบาทละ 47,678.20 บาท
  • ขายออกบาทละ 49,450.00 บาท

ราคาทองคำวันนี้ (27 มี.ค.) ปรับขึ้น 4 รอบ เช็กล่าสุดทองขายเท่าไร

ประกาศราคาทองคำ ครั้งที่ 3

เมื่อเวลา 14.50 น. ปรับราคาทองคำขึ้น 50 บาท ต่อบาททองคำ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.93 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาขายทองคำ ดังนี้

ราคาทองคำแท่ง

  • ซื้อบาทละ 48,600.00 บาท
  • ขายออกบาทละ 48,700.00 บาท

ราคาทองรูปพรรณ

  • ซื้อบาทละ 47,723.68 บาท
  • ขายออกบาทละ 49,500.00 บาท
     

ประกาศราคาทองคำ ครั้งที่ 4

เมื่อเวลา 17.13 น. ปรับราคาทองคำขึ้น 50 บาท ต่อบาททองคำ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.86 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาขายทองคำ ดังนี้

ราคาทองคำแท่ง

  • ซื้อบาทละ 48,660.00 บาท
  • ขายออกบาทละ 48,750.00 บาท

ราคาทองรูปพรรณ

  • ซื้อบาทละ 47,769.16 บาท
  • ขายออกบาทละ 49,550.00 บาท
     

ไทม์ไลน์ ปรับราคาทองคำวันนี้ ไทม์ไลน์ ปรับราคาทองคำวันนี้

ทิศทางราคาทองคำ

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดลบในวันพุธ (26 มี.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเป็นปัจจัยกดดันตลาด

ทั้งนี้ ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวที่เหนือระดับ 3,000 ดอลลาร์ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้นักลงทุนบางส่วนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สำหรับ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 3,022.50 ดอลลาร์/ออนซ์

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.35% แตะที่ระดับ 104.547 ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ

ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 4.342% เพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังมองว่า ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับ 3,000 ดอลลาร์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรและความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นแตะระดับ 3,150 ดอลลาร์

ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำ

ศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 24-28 มี.ค.68 จากการสำรวจ GRC Gold Survey พบว่า..

14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 4 ราย หรือเทียบเป็น 29% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 3 ราย หรือเทียบเป็น 21% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 7 ราย หรือเทียบเป็น 50% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 334 ราย ในจำนวนนี้มี 212 ราย หรือเทียบเป็น 64% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 68 ราย หรือเทียบเป็น 20% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 54 ราย หรือเทียบเป็น 16% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

สถานการณ์ราคาทองคำ
ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศ สมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 47,500 – 48,600 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 48,500 บาท ต่อบาททองคำ เพิ่มขึ้น  1,000 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 47,500 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

  • 1. การประชุม China Development Forum (CDF) ระหว่างวันที่ 23-24 มีนาคม 2568 ณ กรุงปักกิ่ง โดยมีผู้นำจากภาคธุรกิจระดับโลกเข้าร่วม รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เผชิญแรงกดดันจากภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ ขณะเดียวกันผู้กำหนดนโยบายของจีนกำลังเร่ง ส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ เพื่อลดผลกระทบจากปัจจัยภายนอก
  • 2. แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลก ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจยังเป็นประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะ นโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจสร้างแรงกระเพื่อมต่อเศรษฐกิจโลก มาตรการภาษีศุลกากรใหม่มีแนวโน้มทำให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น กระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ ขณะที่นโยบายเข้มงวดด้านผู้อพยพอาจส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น เกษตรกรรม การดูแลสุขภาพ การท่องเที่ยว และการก่อสร้าง
  • 3. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของ GDP ไตรมาส 4/2567, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อสำคัญของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) หากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาแข็งแกร่ง อาจทำให้ FED ยังคงชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ราคาทองคำวันนี้ (27 มี.ค.) ปรับขึ้น 4 รอบ เช็กล่าสุดทองขายเท่าไร

ขอบคุณข้อมูล :


 

logoline