svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ทั่วไทย

"สภาทนาย" รับเรื่องร้อง "บ.เอี่ยวลอบขนแร่เหล็ก-ทองแดง" เถื่อน

27 มีนาคม 2568
เกาะติดข่าวสาร >> NationTV
logoline

"วิเชียร" นายกสภาทนายความ รับเรื่องร้องเรียน "บริษัท เอี่ยวลอบขนแร่เหล็ก-ทองแดง" เถื่อนมูลค่ากว่าหมื่นล้าน แจ้งตำรวจ-หน่วยงานรัฐแต่เรื่องเงียบ

27 มีนาคม 2568 ที่สภาทนายความฯ ถ.พหลโยธิน นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ พร้อมคณะได้ แถลงข่าวเกี่ยวกับบริษัทเอกชนและภาครัฐจังหวัด ใน จ.ลพบุรี ได้ร่วมกันลักลอบขุดแร่เหล็กและแร่ทองแดงเถื่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต

นายดนุเดช ศิริวงษ์ตระกูล หรือทนายน้อย ทนายความ บริษัทนักกฎหมายนารายณ์ เปิดเผยว่า เมื่อประมาณต้นเดือน ธ.ค.63  ตนได้รับการร้องเรียนจาก นายมารวย ชาวบ้านที่รับจ้างนำเครื่องจักร คือ รถแบ็คโฮเข้าไปขุดแร่เหล็กและแร่ทองแดงบริเวณเขาทับควาย อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี โดยได้รับจ้าง บุคคล 2 คน มีข้อตกลงตามสัญญาว่าจ้างว่าให้ชาวบ้านคนดังกล่าวนำรถแบ็คโฮเข้าไปปรับพื้นที่บริเวณเขาทับควาย ดังกล่าว

 

แต่ความจริงแล้ว เมื่อ นายมารวย นำรถแบ็คโฮเข้าไปทำงานบุคคลทั้งสองกลับให้นายมารวย ขุดแร่กองรวมกันไว้ตั้งแต่08.00-17.00น.  ของวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี และในช่วงคืนวันพฤหัสบดี และคืนวันศุกร์ เวลาประมาณ 03.00น. จะให้ผู้รับจ้างขุดแร่ที่กองไว้นั้นตักแร่ขึ้นรถพ่วงสิบล้อคืนละประมาณ 8 พ่วง

นายมารวย จึงนึกแปลกใจที่ให้ผู้รับจ้างตักแร่ขึ้นรถพ่วงเวลากลางคืนของวันพฤหัสบดีและคืนวันศุกร์ นายมารวย จึงขนย้ายเครื่องจักรรถแบ็คโฮออกจากบริเวณที่เกิดเหตุ

 

 

ต่อมา เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.67 นายมารวย ได้มาปรึกษากับตนเพราะกลัวความผิด ตนจึงพานายมารวย ไปแจ้งความที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) และขอให้ลงโทษให้ดำเนินคดีกับ บุคคลทั้ง2 ที่ว่าจ้างนายมารวย อีกทั้งตนยังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงที่ขุดแร่ว่ามีเสียงดังรบกวนในเวลากลางคืน กระทั่งวันที่ 20 ธ.ค.67 ตนได้นำ ตำรวจ ปปป.ตำรวจป่าไม้ ภาค 5 เข้าไปจับกุมรถพ่วงสิบล้อจำนวน 6 พ่วง ที่บรรทุกแร่เหล็กและแร่ทองแดงเต็มพ่วง 

หลังจากนั้นมีฝ่ายทหารที่อ้างเป็นเจ้าของพื้นที่และตำรวจสถานีตำรวจภูธร โคกสำโรง จังหวัดลพบุรี และกรมธนารักษ์ ได้มาที่เกิดเหตุและได้นำพารถพ่วงสิบล้อไปที่สถานีตำรวจภูธร โคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ต่อจากนั้น อุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี ได้นำหนังสือรับรองอนุญาตให้ขนแร่เป็นกรณีพิเศษอ้างว่า บริษัท อ. ได้รับอนุญาตให้ขายแร่เป็นกรณีพิเศษ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจป่าไม้และตำรวจร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ได้ปล่อยรถพ่วงสิบล้อทั้งหมดไป 

 

 

โดยไม่บันทึกรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับการขุดขนอ้ายแร่ แต่ตนทราบจากประชาชนบริเวณ ตำบลห้วยโป่ง จังหวัดลพบุรี ว่าบริษัท อ. ไม่เคยทำประชาคมหรือประชาพิจารณ์เกี่ยวกับการขายแร่เป็นกรณีพิเศษ และตนได้สอบถามนายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยโป่ง  ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบว่ามีเงินผลประโยชน์เกี่ยวกับแร่เข้ามาองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยโป่งหรือไม่ แล้วได้มีการขออนุญาตเกี่ยวกับพ.ร.บ.ขุดดินถมดินหรือไม่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยโป่ง แจ้งกับว่าไม่เคยมี ตนจึงไปที่พาณิชย์จังหวัดลพบุรีเพื่อตรวจสอบดูหนังสือรับรองบริษัท พบว่า บริษัท อ.ได้สิ้นสภาพนิติบุคคลตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย.61

 

 

นายดนุเดช กล่าวต่อว่า เหตุที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เกิดความเสียหายต่อแผ่นดินเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติมีมูลค่าความเสียหายมหาศาล แม้ตนได้แจ้งความที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติศูนย์รับแจ้งความกองบังคับการ ปปป. เรื่องยังเงียบหาย เเม้มีการจับกุมตัวได้เเต่มีตัวเเทนสภาอุตสหกรรมจังหวัดนำใบรับรองมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้มีการปล่อยตัว ซึ่งตนเชื่อว่่เป็นการสำเเดงเอกสารเท็จเพราะตรวจาอบเเล้วพบว่าใบอนุญาตทั่วประเทศได้ถูกยกเลิกหมดเเล้ว โดยจากการคำนวนปริมาณรถที่เข้าออกเชื่แว่ารัฐเสียประโยชน์มูลค่านับหทื่นล้านบาท ตนเห็นว่าสภาทนายความเป็นหน่วยงานอิสระที่มีบุคลากรที่รับผิดชอบเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและมีกฎหมายที่สามารถเข้ามาเกี่ยวข้องและตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป

 

 

นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ กล่าวว่าหลังจากได้รับเรื่องแล้ว ตนก็จะตั้งคณะกรรมการ เพื่อมาทำงานสอบข้อเท็จจริง ไปหาข้อมูลเพิ่มเติม ถ้าหลักฐานที่ได้รับเพียงพอแล้ว เรื่องอาจจะดำเนินการได้เร็ว แต่หากหลักฐานยังไม่เพียงพอก็จำเป็นต้องไปลงพื้นที่แสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อนำมาประกอบการดำเนินงานทางกฎหมายอาจจะต้องมีการประส่นกับกระทรวงอุตสหกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงตามอำนาจหน้าที่ที่เรามี

 

ตนมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ใหญ่และสำคัญเพราะมูลค่าความเสียหาย ที่ถูกลักลอบเอาแร่ออกไป ตีราคาได้มากกว่าหมื่นล้านบาท และเป็นการสูญเสียทรัพยากรของชาติ ที่พวกเราทุกคนและหน่วยงานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้าไป ดูแลดำเนินการตามกฎหมาย เรื่องถูกหรือผิดก็จะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง

 

โดยตนจะมอบหมายให้อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ ประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม เข้ามาดูแล ซึ่งสภาทนายความเองก็มีบุคลากรเคยดำเนินคดีลักษณะใกล้เคียงกับเรื่องดังกล่าวมาหลายครั้งแล้ว อย่างไรก็ตามเรื่องนี้อาจจะเข้าข่าย ลักษณะการกระทำผิดบัญชีแนบท้ายที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ จะเข้ามาดูแลดำเนินคดี ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการช่วยประชาชน

 

 

logoline