26 มีนาคม 2568 ราคาทองวันนี้ ตามประกาศจาก สมาคมค้าทองคำ เมื่อเวลา 09.08 น. ราคาทองแท่ง ราคาทองรูปพรรณ ราคาทองคำวันนี้ ราคาลดลง 50 บาท ต่อบาททองคำ โดยค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.85 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองรูปพรรณ
เมื่อเวลา 09.15 น. ปรับราคาทองคำขึ้น 50 บาท ต่อบาททองคำ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาขายทองคำ ดังนี้
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองรูปพรรณ
ประกาศราคาทองคำ ครั้งที่ 3
เมื่อเวลา 09.50 น. ปรับราคาทองคำขึ้น 50 บาท ต่อบาททองคำ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.94 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาขายทองคำ ดังนี้
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองรูปพรรณ
ประกาศราคาทองคำ ครั้งที่ 4
เมื่อเวลา 10.26 น. ปรับราคาทองคำลง 50 บาท ต่อบาททองคำ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.95 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาขายทองคำ ดังนี้
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองรูปพรรณ
ไทม์ไลน์ปรับราคาทองคำ
เมื่อเวลา 12.47 น. ปรับราคาทองคำขึ้น 50 บาท ต่อบาททองคำ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.99 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาขายทองคำ ดังนี้
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองรูปพรรณ
ประกาศราคาทองคำ ครั้งที่ 6
เมื่อเวลา 13.02 น. ปรับราคาทองคำขึ้น 50 บาท ต่อบาททองคำ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.98 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาขายทองคำ ดังนี้
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองรูปพรรณ
เมื่อเวลา 13.46 น. ปรับราคาทองคำขึ้น 50 บาท ต่อบาททองคำ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 34.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาขายทองคำ ดังนี้
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองรูปพรรณ
ไทม์ไลน์ "ราคาทองคำวันนี้"
ประกาศราคาทองคำ ครั้งที่ 8
เมื่อเวลา 16.13 น. ปรับราคาทองคำลดลง 50 บาท ต่อบาททองคำ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.98 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาขายทองคำ ดังนี้
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองรูปพรรณ
ประกาศราคาทองคำ ครั้งที่ 9
เมื่อเวลา 16.34 น. ปรับราคาทองคำลดลง 50 บาท ต่อบาททองคำ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.99 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาขายทองคำ ดังนี้
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองรูปพรรณ
ไทม์ไลน์ ปรับราคาทองคำวันนี้
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดบวกในวันอังคาร (25 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 10.30 ดอลลาร์ หรือ 0.34% ปิดที่ 3,025.90 ดอลลาร์/ออนซ์
นักวิเคราะห์จาก CPM Group กล่าวว่า นักลงทุนเดินหน้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เนื่องจากกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลทรัมป์จะก่อให้เกิดสงครามการค้าทั่วโลก และจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเผชิญภาวะถดถอย นอกจากนี้ มาตรการภาษีของทรัมป์มีแนวโน้มที่จะทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นด้วย
นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปแล้วกว่า 15% และเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ปีนี้ ราคาทองทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 3,057.21 ดอลลาร์ เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
ศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 24-28 มี.ค.68 จากการสำรวจ GRC Gold Survey พบว่า...
14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 4 ราย หรือเทียบเป็น 29% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 3 ราย หรือเทียบเป็น 21% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 7 ราย หรือเทียบเป็น 50% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 334 ราย ในจำนวนนี้มี 212 ราย หรือเทียบเป็น 64% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 68 ราย หรือเทียบเป็น 20% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 54 ราย หรือเทียบเป็น 16% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สถานการณ์ราคาทองคำ
ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศ สมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 47,500 – 48,600 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 48,500 บาท ต่อบาททองคำ เพิ่มขึ้น 1,000 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 47,500 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
1. การประชุม China Development Forum (CDF) ระหว่างวันที่ 23-24 มีนาคม 2568 ณ กรุงปักกิ่ง โดยมีผู้นำจากภาคธุรกิจระดับโลกเข้าร่วม รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เผชิญแรงกดดันจากภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ ขณะเดียวกันผู้กำหนดนโยบายของจีนกำลังเร่ง ส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ เพื่อลดผลกระทบจากปัจจัยภายนอก
2. แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลก ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจยังเป็นประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะ นโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจสร้างแรงกระเพื่อมต่อเศรษฐกิจโลก มาตรการภาษีศุลกากรใหม่มีแนวโน้มทำให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น กระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ ขณะที่นโยบายเข้มงวดด้านผู้อพยพอาจส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น เกษตรกรรม การดูแลสุขภาพ การท่องเที่ยว และการก่อสร้าง
3. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของ GDP ไตรมาส 4/2567, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อสำคัญของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) หากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาแข็งแกร่ง อาจทำให้ FED ยังคงชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ขอบคุณข้อมูล :