นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) หรือ สสปท. และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมี นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ,นายกำธร ชีพชัยอิสสระ ประธานกรรมการ สสปท. ,นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้อำนวยการ สสปท. ,ดร.ธัชพล กาญจนกูล รองเลขาธิการ EEC และผู้บริหารกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมให้การต้อนรับ ณ โรงแรม เอส.ดี. อเวนิว กรุงเทพฯ
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือ (MOU) ในครั้งนี้ มีเป้าหมายสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งมีแรงงาน 2,634,000 คน (แรงงานในระบบ 1,690,000 คน และแรงงานอิสระ 944,000 คน) ด้วยความมุ่งมั่นที่จะลดอุบัติเหตุจากการทำงานในพื้นที่ ให้ไม่เกิน 4 % ต่อปี ผ่านโครงการ Zero Accident พร้อมพัฒนาระบบการทำงานที่ทันสมัย สอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในพื้นที่อุตสาหกรรมหลักของประเทศ
ความร่วมมือนี้จะช่วยสร้างมาตรฐานความปลอดภัยที่เหมาะสม กับการขยายตัวของอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ความร่วมมือครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญ ในการส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงาน ให้บรรลุเป้าหมายเพิ่มสถานประกอบกิจการอีก 16% หรือ 2,000 แห่ง ภายในปี 2568 ผมขอขอบคุณ EEC ที่ร่วมมือกับ สสปท. ในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและยั่งยืน
ขณะที่ นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้อำนวยการ สสปท. กล่าวเสริมว่า "ในวันนี้เราได้มอบรางวัล Zero Accident 2024 จำนวน 101 รางวัล และรางวัลโครงการพัฒนาสถานประกอบกิจการ ตามมาตรฐานระบบการจัดการด้านความปลอดภัยฯ ประจำปีงบประมาณ 2566 อีก 38 รางวัล ซึ่งรางวัลเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสถานประกอบกิจการ ในการรักษาความปลอดภัยในที่ทำงาน ซึ่งไม่เพียงแต่ปกป้องชีวิตแรงงาน แต่ยังช่วยคุ้มครองทรัพย์สินและสร้างเสถียรภาพในองค์กร ความสำเร็จเหล่านี้จะเป็นแรงบันดาลใจ ให้สถานประกอบกิจการอื่นๆ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อประโยชน์ทั้งต่อบุคคล สังคม และประเทศชาติ"
ดร.ธัชพล กาญจนกูล รองเลขาธิการ EEC ได้กล่าวปิดท้ายว่า "EEC ขอขอบคุณกระทรวงแรงงาน กรมการจัดหางาน และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ที่ได้ร่วมกันสรรหาแรงงานกว่า 100,000 คน เข้าทำงานในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งเป็นการดำเนินงานที่มีความสำคัญ และประสบผลสำเร็จอย่างสูง ในโอกาสนี้ถือเป็นมิติใหม่ที่ได้ร่วมกับกระทรวงแรงงานและ สสปท. เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการทำงาน โดย EEC พร้อมที่จะร่วมมือ สนับสนุน และแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานทุกคน นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าของสถานประกอบการและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ตอกย้ำการเติบโตอย่างยั่งยืนของภูมิภาคนี้