ไม่กี่วันข้างหน้า "เเพทองธาร ชินวัตร" หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเเละนายกรัฐมนตรีจะเริ่มทำงานกับ ครม.35 คนเเล้ว ควรจับตาว่า นโยบายรัฐบาล ที่จะเเถลงต่อรัฐสภานั้น นายกฯอิ๊งค์จะทำได้หรือไม่...เเละจะทำเสร็จกี่โมง!?!เพราะหลายฝ่ายน่าจะจองกฐินกันทั่วถ้วนกับทุกจังหวะที่ครม.ชุดนี้ขยับ...
"พรรคเพื่อไทย" ที่สืบทอดจาก "พรรคพลังประชาชน" เเละ "พรรคไทยรักไทย" ซึ่งยืนหนึ่งบนอัตราเต็งเเชมป์ในการกวาดสส.ทุกครั้ง เเม้คราวนี้ "เพื่อไทย" จะได้เป็นเเกนนำตั้งรัฐบาลจากการเลือกตั้งงวดล่าสุด เเต่ความจริงคือพท.คือพรรคอันดับสองที่พ่ายพรรคก้าวไกล (พรรคประชาชนในวันนี้ ) เเละต้องใช้เเคนดิเดตสร.1ถึงสองครั้งในอายุ4ปีของรัฐนาวาลำนี้ ( เศรษฐา ทวีสิน เเละ เเพทองธาร)
"นายกฯอิ๊งค์" บอกสังคมว่า จะสืบนโยบายของครม.นายกฯนิด ต่อไป เเละเสริมของใหม่ๆเข้ามาเเต่ต้องดูว่า นายกฯมือใหม่ที่ประสบการณ์/บารมีอาจยังไม่เข้าขั้นจะเดินหน้าทำงานให้ครบวาระได้หรือไม่เเละจะเผชิญกับการเเก้ปัญหาอย่างไร
บนข้อเท็จจริงทางการเมืองนั้น ปัจจัยที่คนการเมือง/ผู้นำประเทศต้องมีคือสตาฟฟ์ส่วนตัวที่จะกรองงาน/กรองข่าวสาร/ประเมินเหตุการณ์ให้รับทราบเเละเสนอเเนวทางดำเนินการเพื่อให้การทำงานสะดวกเเละรักษาคะเเนนนิยมจากสังคม
เเม้ตำเเหน่งหลักที่สร.1คนนี้จะมีไว้อย่างเป็นทางการคือ1.เลขาธิการนายกรัฐมนตรี "นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช" ซึ่งทำหน้าที่เสมือนนายกฯน้อย 2.รองนายกฯเเละรมว.กลาโหม "ภูมิธรรม เวชยชัย" ที่รับบทผู้จัดการรัฐบาลนั้น ทั้งสองคนนี้เคยร่วมงานกับ "ทักษิณ ชินวัตร" มายาวนานเเละเป็นที่ไว้วางใจขั้นสูงสุดจึงเป็นสตาฟฟ์ที่สร.1วางใจได้ในการบริหารบ้านเมือง
บวกกับคนในเเวดวงพท.เเละชินคอร์ปเเละเพื่อนๆร่วมรุ่นของนายกฯอิ๊งค์ เช่น นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี/ วิม รุ่งวัฒนะจินดา/คณาพจน์ โจมฤทธิ์ ยังเป็นเเบ็กอัพให้สร.1 ในการทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเพราะสามคนนี้นับเป็นวงเเหวนชั้นในที่ประสาน"แพทองธาร"ไดัทันที
เเต่ข้อมูลที่เจาะมาได้ในชั้นนี้พบว่า สร.1ยังมีสองสตาฟฟ์ที่สนับสนุนการทำงานของเเพทองธารตั้งเเต่ช่วงเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย/เเคนดิเดตนายกฯ/หัวหน้าพรรคเพื่อไทย/สร.1ในปัจจุบัน
ทราบว่า บุคคลในสองสตาฟฟ์นี้ส่วนใหญ่ไม่เคยทำงานการเมืองอย่างเป็นทางการ!?!? โดยทีมแรกทำงานช่วงแคมเปญเลือกตั้งเเละยังทำหน้าที่นี้ต่อ ส่วนทีมที่สองนั้นทำหน้าที่ขยายฐานสมาชิก/คิดเเนวนโยบาย/คิดการชึ้เเจงเเละตอบโต้ทางการเมือง
ขออธิบายจากข้อมูลข้างต้นต่อไปดังนี้ ทีมแรกคือ "ทีมนาตาชา" เป็นทีมงานคนรุ่นใหม่ คนพวกนี้คือเด็กกิจกรรมในรั้วอุดมศึกษาเเละพบว่าหลายคนเคยสังกัดเเวดวงสื่อมวลชนทางเลือกเเละสื่อที่ต้านการยึดอำนาจ เเละตอนนี้พบว่าบางส่วนเเยกไปช่วยงานพรรคสีส้มอีกด้วย โดยทีมงานนี้พบว่า "นพ.สุรพงษ์" เเละ"คณาพจน์" ร่วมคัดเลือกหัวกะทิของคนรุ่นใหม่ให้ร่วมทีมนาตาชาที่ทำหน้าที่เสมือนเลขาฯเเละสตาฟฟ์ส่วนตัวของเเพทองธาร
ทราบมาว่าหลายคนในพท.ไม่ค่อยกล้าขัดเเนวคิดของ "ทีมนาตาชา" เพราะหากมีอะไรขัดใจกับทีมนี้ "แเพทองธาร" อาจไม่พอใจตามไปด้วย...
เเละยังพบว่า "ทีมนาตาชา" นั้น ร่วมทำเเคมเปญเลือกตั้งงวดล่าสุดที่จะเจาะฐานคนรุ่นใหม่/วัยทำงานให้เห็นว่า "พท.ฝากความหวังได้" โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจเเละการสร้างงานให้คนรุ่นใหม่ เช่น Soft Power /เงินเดือนปริญญาตรี2.5หมื่นบาท/ธุรกิจเเนวใหม่
"ทีมนาตาชา"นั้นยังมอนิเตอร์บนโลกออนไลน์เเละโพลล์ในการวิเคราะห์คู่เเข่งเเละทราบว่ามีการให้น้ำหนักหลักคือจับตา"พรรคก้าวไกล"(ในตอนนั้น)ว่าจะมีโอกาสสูงสุดที่จะชนะ"พรรคเพื่อไทย"
ล่วงรู้ไปกว่านั้น อดีตคนวงในโอเอไอทาวเวอร์ เคยส่งสัญญาณเตือนเเกนนำพรรคเสมอว่าโลกออนไลน์เเละ กระเเสคนรุ่นใหม่/ชนชั้นกลางหัวก้าวหน้าเทเเต้มให้พรรคสีส้มชนิดที่ทุกพรรคไล่ไม่ทัน
เเต่ตอนต้นของช่วงหาเสียงเเกนนำพรรคระดับอาวุโสไม่เชื่อเเละยังมั่นใจเเคมเปญของพรรคเเต่ต่อมามีการเลี้ยวเปลี่ยนเเนวทางหาเสียงในระยะ 100 เมตรสุดท้ายที่อย่างไรก็ไล่พรรคสีส้มไม่ทัน
"เพื่อไทย academy"
ทีมสองคือ "เพื่อไทย academy" เป็นทีมงานสายวิชาการ โดยมีอาจารย์หัวก้าวหน้า/คนรุ่นใหม่จากสามย่านเเละท่าพระจันทร์มาสนับสนุน ภารกิจคือวางเเผนเเนะนำการขยายฐานเสียง/ติดตามเนื้อหา-ผลงานของพรรคเเละรัฐบาลที่ต้องชี้เเจงกับสังคม รวมทั้งการให้ข่าวกับสื่อของสร.1เเละตัวเเทนพรรค โดยผนึกกับพิธีกร "นางเเบกเเละนายเเบก" ที่สังคมคุ้นหน้าตาเเละลีลาการทำงานกันเเล้วทำหน้าที่กระบอกเสียงสนับสนุนอีกทางหนึ่ง
ดังนั้นเร็วๆนี้ จะได้เห็นผลงานของสองสตาฟฟ์ส่วนตัวของสร.1ว่าผลงานเป็นอย่างไร ดีไม่ดีคนใดคนหนึ่ง ปรากฎชื่อใน "คณะที่ปรึกษาของนายกฯ แพทองธาร" ภายหลังการประชุมครม.ที่จะมีขึ้นเร็วๆนี้ก็ได้
สำหรับ ทีมมันสมองแพทองธาร เราคงต้องขอวงเล็บไว้ว่า (นอกบ้านจันทร์ส่องหล้า) จะส่งผลบวก/ผลลบกับจังหวะของ "แพทองธาร"บนสนามการเมืองหรือไม่ เพราะหลายคนชี้ว่างวดนี้ "ชินวัตรเเฟมิลี่" ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายทางการเมืองลงมาเล่นเเบบเทหมดหน้าตักเเล้ว!?!?
จับตาจังหวะก้าว "คณาพจน์ โจมฤทธิ์" และ "ทีมนาตาชา"
ใครช่วยเสริม ใครรช่วยตรวจทานนโยบายรัฐบาลแพทองธาร อย่าคิดว่ามีเพียง "คนบ้านจันทร์ฯ" แต่ทว่า มือดีข้างกาย"แพทองธาร" นั้น พวกเขามีขุมกำลังถึงสองทีมด้วยกันโดนเฉพาะบุคคลรายนี้ไม่ธรรมดา
"ดร.คณาพจน์ โจมฤทธิ์" เคยเรียนคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯรุ่นเดียวกับ"แพทองธาร" นายกฯ เเละเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งเเต่ชั้นปี1จนถึงปัจจุบัน "คณาพจน์" ยังเป็นญาติสนิททางฝ่ายสามีแพทองธาร "ปอ ปิฎก สุขสวัสดิ์"
การเลือกตั้งสส.ปี 2562 "คณาพจน์" รับตำแหน่ง รองเลขาธิการ "พรรคไทยรักษาชาติ"ที่ใช้คนรุ่นใหม่สืบนโยบายพรรคไทยรักไทย เเม้พรรคนี้จะโดนยุบไปเเล้วเเละไม่ได้ลงเลือกตั้งคราวนั้น แถมติดโทษทางการเมืองโดนตัดสิทธิการเมือง 10 ปี แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาให้ความคิดและไอเดียของคณาพจน์จะต้องแช่แข็งไปด้วย
"คณาพจน์" มีความสนใจทำงานการเมืองและหวังนำประสบการณ์ด้านที่ปรึกษากฎหมายการลงทุนระหว่างประเทศมาปรับใช้ขับเคลื่อนประเทศและประชาชนให้หลุดพ้นจากกับดักความยากจน รวมทั้งวางแนวทางพัฒนาประเทศให้ทันต่อความเจริญของโลกที่เปลี่ยนแปลง เเละช่วงรัฐบาลที่เเล้ว"คณาพจน์"ยังเป็นทีมงานส่วนตัวของอดีตนายกฯเศรษฐาอีกด้วย
ที่มา "ทีมนาตาชา"
ส่วนชื่อ "ทีมนาตาชา" ไม่ได้มาจาก คนใดคนหนึ่งในทีมชื่อ "นาตาชา"เเต่อย่างใด แต่มาจาก ภาพยนตร์ต่างประเทศแนวซุปเปอร์ฮีโร "มาร์เวล" ที่ผนึกกำลัง ของซุปเปอร์ฮีโรหลายคน กอบกู้โลกหนึ่งในนั้นคือ "นาตาชา โรมานอฟ" สายลับสาวสวยจากรัสเซีย ด้วยความชื่นชอบและเข้าตากรรมการจึงนำมาตั้งเป็น "ทีมนาตาชา" นั่นเอง