รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ปราศรัยครั้งแรกที่เมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน เมื่อวันพุธ โดยมีผู้ร่วมฟังราว 3,000 คน และเป็นการประเดิมหาเสียงเวทีแรก หลังเธอประกาศตัวจะชิงตำแหน่งประธานาธิบดี หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ถอนตัวจากการเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายน โดยทีมหาเสียงระบุว่า เป็นการปราศรัยที่มีผู้ร่วมฟังมากที่สุดของผู้สมัครประธานาธิบดีเดโมแครตในปี 2567
เธอประกาศต่อหน้าผู้สนับสนุนว่า สามารถรวบรวมเสียงคณะผู้แทนของพรรคได้มากพอที่จะได้รับการรับรองเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และให้คำมั่นว่า จะใช้เวลาที่เหลืออีกเพียง 105 วัน เพื่อสร้างความสามัคคีในพรรค ที่จะทำให้ชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน
นอกจากนี้แฮร์ริสกล่าวชูความแตกต่างระหว่างตัวเธอที่เป็นอดีตอัยการกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เป็นผู้กระทำผิดคดีอาญา โดยบอกว่า สมัยที่เป็นอัยการรัฐแคลิฟอร์เนีย เคยล่าตัวผู้กระทำผิดหลายประเภท ทั้งนักล่าสวาท นักต้มตุ๋น และคนโกง ทำให้รู้จักคนประเภทเดียวกับทรัมป์
เธอบอกด้วยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่แค่การต่อสู้กับทรัมป์ แต่เป็นการต่อสู้เพื่อชนชั้นกลาง และโจมตีว่าทรัมป์พึ่งการสนับสนุนจากมหาเศรษฐีพันล้านและกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ ที่เขาจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกับเงินสนับสนุนการหาเสียง
นอกจากนี้เธอยังเผยนโยบายสำคัญอันดับต้น ๆ ที่จะทำ ได้แก่ การควบคุมปืน สิทธิการทำแท้ง ความยากจนของเด็ก สิทธิแรงงาน และประกันสุขภาพที่สามารถจับจ่ายได้
ขณะที่มีรายงานว่า เงินบริจาคสนับสนุนแฮร์ริสเพิ่มสูงขึ้นแตะ 100 ล้านอลลาร์แล้วภายในเวลาเพียง 36 ชั่วโมง หลังจากไบเดนประกาศถอนตัวในบ่ายวันอาทิตย์
นอกจากนี้จอร์จ คลูนีย์ นักแสดงฮอลลีวู้ดชื่อดัง และผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดในฮอลลีวู้ดที่สนับสนุนพรรคเดโมแคต ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนแฮร์ริสชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว โดยระบุในแถลงการณ์ว่า “ประธานาธิบดีไบเดนแสดงความเป็นผู้นำที่แท้จริงให้เห็นแล้ว เขารักษาประชาธิปไตยไว้อีกครั้ง เราตื่นเต้นที่จะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อสนับสนุนรองประธานาธิบดีในการสร้างประวัติศาสตร์ของตัวเอง”
ก่อนหน้านี้คลูนีย์เป็นผู้สนับสนุนสำคัญและสามารถระดมทุนหาเสียงครั้งใหญ่ที่สุดให้กับไบเดน แต่เขาเขียนบทความในหนังสือพิมพ์เรียกร้องให้ไบเดนถอนตัวจากการเลือกตั้ง เพราะเขาจะไม่สามารถชนะการเลือกตั้งได้ หลังจากทำผลงานที่ย่ำแย่ในการดีเบทเมื่อปลายเดือนมิถุนายน
นอกจากนี้แฮร์ริสยังได้รับข่าวดีที่ผลสำรวจของรอยเตอร์สและอิปซอสล่าสุด พบว่า เธอมีคะแนนนิยมแซงหน้าทรัมป์ที่ 44% ต่อ 42%
ขณะที่ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยโจมตีแฮร์ริสว่า เธอเป็นพวกซ้ายจัด และประเทศนี้ไม่ได้ต้องการคนซ้ายจัดมาทำลายชาติ และเขาสามารถต่อสู้กับเธอได้ง่ายกว่าไบเดน เพราะไบเดนเป็นพวกสายกลา
ทรัมป์ยังบอกด้วยว่า เขาพร้อมดีเบทกับเธอในเดือนกันยายน ซึ่งตามกำหนดเดิมเขาจะต้องเจอกับไบเดนในการดีเบทที่จัดโดยเอบีซีนิวส์ และยังบอกด้วยว่า จริง ๆ แล้ว อยากดีเบทกับเธอหลายครั้งด้วย
เขายังโพสต์ในแพลตฟอร์ม ทรูธ โซเชียล ของตัวเองว่า แฮร์ริสเป็นรองประธานาธิบดีที่ไม่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ และยังแชร์โพสต์ที่บอกว่า เธอเคยถูกจัดอันดับอยู่ในกลุ่มวุฒิสมาชิกเดโมแครตหัวซ้ายจัดที่สุดด้วย