3 พฤศจิกายน 2567 ที่ ศูนย์วัฒนธรรม อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดงาน Networking Dinner "เหนือพร้อม...เที่ยว" ที่จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว จังหวัดเชียงใหม่ได้พบปะแลกเปลี่ยนเจรจาธุรกิจร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากทั้ง 5 ภูมิภาค โดยมี นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. และคณะผู้ประกอบการจาก 5 ภูมิภาค เข้าร่วมงาน
นายวีรพงศ์ กล่าวถึงความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวว่า จากเหตุอุทกภัยที่ผ่านมาถือว่าเป็นครั้งที่หนักสุดในรอบ 50 ปีของจังหวัด สร้างความเสียหายกระจายเป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วนรวมไปถึงภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วย
โดยภายหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลง จังหวัดเชียงใหม่ได้ระดมกําลังทั้งเจ้าหน้าที่ หน่วยงานภาครัฐ ประชาชนและจิตอาสาฟื้นฟูสภาพถนนสายหลัก รวมถึงพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจให้กลับมาสะอาดสวยงาม โดยขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่มีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และผู้มาเยือนในช่วงไฮซีซั่นที่กําลังจะถึงนี้
ขณะเดียวกัน ทุกภาคส่วนยังได้จัดเตรียมกิจกรรมภายใต้ธีม 12 เดือน 12 เทศกาล ไว้รองรับผู้มาเยือนได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ โดยมีงานประเพณีหลากหลายรูปแบบ อาทิ งานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ มหกรรมดนตรีเชียงใหม่เฟส เทศกาลงานออกแบบ ChiangMai Design งานวิ่งเมืองไทยเชียงใหม่มาราธอน และงาน ChiamgMai Countdown 2025 ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดี
ด้าน นายอภิชัย กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ทั้งในแง่ของการคมนาคมเดินทางเข้าสู่พื้นที่และความเสียหายต่อแหล่งท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสถานการณ์ในจังหวัดภาคเหนือได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว และตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป แหล่งท่องเที่ยวและสถานประกอบการต่างๆ ในภาคเหนือพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้กลับมาเดินทางชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติ และศิลปวัฒนธรรมที่งดงามและทรงคุณค่าของทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงฤดูแห่งการท่องเที่ยวภาคเหนือ
ดังนั้น เพื่อสร้างกระแสให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว ฟื้นฟูความเชื่อมั่นในการเดินทาง ตลอดจนแสดงถึงความพร้อมและศักยภาพของภาคเหนือ ททท. ได้จัดงาน "เหนือพร้อม..เที่ยว" ส่งเสริมให้เกิดการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่นๆ สู่ภาคเหนือ 17 จังหวัด โดยในวันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2567 ททท. ได้นำผู้ประกอบการและสื่อมวลชนจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศกว่า 200 คน ร่วมอัปเดตสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว และเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคเหนือ 17 จังหวัดในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่
พร้อมร่วมพิธีสืบชะตาหลวงล้านนาเพื่อความเป็นสิริมงคล ตลอดจนกิจกรรม CSR พร้อมกันนี้ถือเป็นการคิกออฟเปิดตัวแคมเปญ "แอ่วเหนือ...คนละครึ่ง" ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เพื่อเดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวภาคเหนืออย่างเต็มที่ ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อสิ้นสุดปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ภูมิภาคภาคเหนือกว่า 22.13 ล้านคน-ครั้ง และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวกว่า 164,106 ล้านบาท
นายอภิชัย ยังกล่าวอีกว่า "แอ่วเหนือ...คนละครึ่ง" ที่ได้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ททท. ได้ร่วมกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ อาทิ โรงแรม/ที่พัก ร้านกาแฟ ร้านอาหาร กิจกรรม DIY แหล่งท่องเที่ยว ร้านของที่ระลึก มอบส่วนลด 50% ของการใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการในสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ รวมมูลค่าไม่เกิน 400 บาท จำนวน 10,000 สิทธิ์ (1 คน/1 สิทธิ์) ให้แก่นักท่องเที่ยว
โดยนักท่องเที่ยวสามารถสแกน QR code เพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์ ณ โรงแรมที่เข้าพักที่ร่วมโครงการในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด โดยเมื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์แล้ว จะได้รับ SMS ยืนยันการเข้าร่วมแคมเปญ ซึ่งจะมีระยะเวลาการใช้งานสิทธิ์ที่ได้รับภายใน 3 วัน (72 ชั่วโมง) นับจากเวลาที่ได้รับ SMS ยืนยัน ทั้งนี้สำหรับการใช้สิทธิ์ส่วนลด นักท่องเที่ยวสามารถใช้สิทธิ์โดยสแกน QR code ณ สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการโดยสังเกตป้ายที่มีโลโก้แอ่วเหนือคนละครึ่ง
ทั้งนี้ สิทธิ์ในการใช้ส่วนลดมีจำนวนจำกัด ททท. ขอสงวนสิทธิ์ให้กับผู้ที่ลงทะเบียนก่อนจะได้รับสิทธิ์ก่อน (First Come First Served) โดยสามารถเริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 หรือเมื่อครบจำนวนการใช้สิทธิ์
ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดการสมัครเข้าร่วมแคมเปญ "แอ่วเหนือ...คนละครึ่ง" และตรวจสอบรายชื่อสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ได้ที่เว็บไซต์ www.แอ่วเหนือคนละครึ่ง.com หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ TAT Contact Center โทร. 1672