svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ของดีไทยแลนด์

ไทยติดอันดับ 8 "ประเทศที่ร่ำรวยมรดกทางวัฒนธรรมมากที่สุดในโลก" ประจำปี 2567

รมว.สุดาวรรณ เผยข่าวดี ไทยติดอันดับ 8 "ประเทศที่ร่ำรวยมรดกทางวัฒนธรรมมากที่สุดในโลก" ปี 2567 ชวนชม "โขนมรดกของชาติ"-ร่วมสืบสานเทศกาลลอยกระทง เดินหน้ายกระดับเทศกาลประเพณี-มรดกภูมิปัญญาไทยสู่มรดกของโลก เพื่อขับเคลื่อน Soft Power สร้างเสน่ห์วิถีไทยดึงดูดนักท่องเที่ยว

31 ตุลาคม 2567 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่าเว็บไซต์ U.S. News & World Report ได้ประกาศรายชื่อการจัดอันดับ "ประเทศที่ร่ำรวยมรดกทางวัฒนธรรมมากที่สุดในโลก" ประจำปี 2567 ซึ่งประเทศไทยติดอันดับที่ 8 ในการจัดอันดับ "ประเทศที่ร่ำรวยมรดกทางวัฒนธรรมที่สุดในโลก 2567" หรือ Thailand Ranked 8 th in 2024 Best Countries Heritage จากทั้งหมด 89 ประเทศ 

ซึ่งทราบว่าประเด็นการพิจารณาจัดอันดับประเทศที่ร่ำรวยรมรดกทางวัฒนธรรมจะมีหลักเกณฑ์พิจารณาค่าเฉลี่ยจากคุณลักษณะของประเทศ 5 ประการ ได้แก่ 

  1. มีวัฒนธรรมที่เข้าถึงได้ 
  2. มีประวัติศาสตร์อันรุ่งเรือง 
  3. มีอาหารที่ยอดเยี่ยม 
  4. มีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมมากมาย 
  5. มีสถานที่ท่องเที่ยวทางภูมิศาสตร์เป็นจำนวนมาก 

สำหรับ 10 อันดับแรก ประเทศที่ร่ำรวยมรดกทางวัฒนธรรมมากที่สุดในโลกประจำปี 2567 ได้แก่ 

  1. กรีซ
  2. อิตาลี 
  3. สเปน 
  4. ฝรั่งเศส 
  5. ตุรกี 
  6. เม็กซิโก 
  7. อียิปต์ 
  8. ไทย 
  9. โปรตุเกส 
  10. อินเดีย 


ทั้งนี้จากรายละเอียดการจัดอันดับระบุว่า ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งเสรีภาพและเป็นดินแดนแห่งรอยยิ้ม และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากที่สุดในโลก ผสมผสานระหว่างศิลปะวัฒนธรรมดั้งเดิมกับบ้านเมืองที่ทันสมัย มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และทางธรรมชาติ หาดทรายและวัดวาอารามที่งดงาม และมีชื่อเสียงด้านการนวดแผนไทยและอาหารที่มีรสชาติยอดเยี่ยม

ภาพโดย กระทรวงวัฒนธรรม

"ในฐานะที่กำกับดูแลงานด้านวัฒนธรรมของชาติ รู้สึกยินดีที่ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับเป็นประเทศที่ร่ำรวยมรดกทางวัฒนธรรมมากที่สุดในโลก ซึ่งทราบว่าการจัดอันดับให้ประเทศไทยเป็นอันดับ 8 เพราะมีมรดกทางวัฒนธรรมล้ำค่า เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีอาหารเลิศรส มีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมจำนวนมาก ซึ่งการจัดอันดับมรดกทางวัฒนธรรมครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นส่วนช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกสนใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวและสัมผัสมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ระบุ


น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วธ. (ภาพโดย กระทรวงวัฒนธรรม)

นางสาวสุดาวรรณ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบายในการขับเคลื่อน Soft Power สร้างเสน่ห์วิถีไทย ครองใจคนทั้งโลก ซึ่ง วธ.ได้ประกาศยกระดับเทศกาลประเพณีไปสู่ระดับชาติและนานาชาติ โดยปี 2568 มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดขับเคลื่อนงานวัฒนธรรม ตามนโยบาย 4 ข้อ ขับเคลื่อนใน 3 แนวทาง และ 2 รูปแบบ ไปสู่ 1 เป้าหมาย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทยในเชิงมิติวัฒนธรรม ผลักดันให้ประเทศไทยเป็น 1 ใน 25 ประเทศที่มีอิทธิพลด้าน Soft Power ในมิติวัฒนธรรม และให้บรรลุเป้าหมายคือผลักดันให้เศรษฐกิจวัฒนธรรมเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและสร้างรายได้สู่ประเทศ

ทั้งนี้การขับเคลื่อน Soft Power ได้รัฐบาลให้ความสำคัญโดยจัดเทศกาล Thailand Winter Festivals ส่งมอบประสบการณ์ความสุขช่วงปลายปี ภายใต้แนวคิด "7 Wonders of Thailand" เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสความมหัศจรรย์ของกิจกรรม 7 หมวดหมู่ ได้แก่ 

  1. เทศกาลลอยกระทง 
  2. เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หรือ Countdown 
  3. กิจกรรมเชิงกีฬา 
  4. กิจกรรมด้านวัฒนธรรม เช่น มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ งานประเพณีแห่ดาวคริสต์มาส จ.สกลนคร 
  5. เทศกาลอาหาร มหกรรมอาหาร 
  6. เทศกาลดนตรี 
  7. เทศกาลแสงสี 

 
ภาพโดย กระทรวงวัฒนธรรม

ในส่วนการยกระดับเทศกาลประเพณีของ วธ. ในปี 2568 ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ จะมีเทศกาลลอยกระทง ภายใต้แนวคิด "ลอยกระทง วิถีไทยปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม" มีไฮไลต์การจัดกิจกรรมใน 5 เมืองที่มีอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ในการจัดงานวันลอยกระทง ไม่ว่าจะเป็น เชียงใหม่ (ยี่เป็ง) สุโขทัย (เผาเทียน เล่นไฟ) ตาก (กระทงสาย) สมุทรสงคราม (กระทงกาบกล้วย) ร้อยเอ็ด (สมมาน้ำคืนเพ็ง เส็งประทีป) และพื้นที่  8 เมืองน่าเที่ยวได้แก่ กาญจนบุรี พระนครศรีอยุธยา ลำปาง นครราชสีมา ขอนแก่น บุรีรัมย์ สุรินทร์ ภูเก็ต และส่งเสริมการจัดประเพณีลอยกระทงทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อสืบสานคุณค่าสาระของประเพณีลอยกระทง การรณรงค์ให้แต่ละท้องถิ่นรักษาอัตลักษณ์ความเป็นไทยและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เน้นเผยแพร่คุณค่าสาระของวัฒนธรรมอันดีงาม ร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม ใช้วัสดุทางธรรมชาติ ใช้กระทงน้อยที่สุด 1 ครอบครัว 1 กระทง ที่สำคัญการยกระดับเทศกาลลอยกระทง เพื่อให้สอดคล้องต่อการที่ประเทศไทยเตรียมเสนอประเพณีลอยกระทง เป็นรายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อองค์การยูเนสโกเนื่องจากประเพณีลอยกระทงเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของคนไทยมายาวนาน สะท้อนวิถีชีวิตของคนไทยที่มีความผูกพันกับน้ำอย่างใกล้ชิด

การแสดงโขนไทย (แฟ้มภาพ)

นอกจากนี้ อยากเชิญชวนคนไทยร่วมสืบสานและชมความงดงามของ "โขน" ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก (UNESCO) เมื่อ 2561 ว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติ ซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทยรายการแรกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนซึ่งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จัดการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ตอน "พระจักราวตาร" สืบสานศิลปะการเเสดงโขน ถ่ายทอดความวิจิตรงดงามและสานต่อศิลปะโขนมรดกของชาติ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 92 พรรษา 12 สิงหาคม 2567 ซึ่งทรงส่งเสริมและสนับสนุนการแสดงโขน เพื่อสืบทอด ธำรงนาฏศิลป์อันทรงคุณค่าของชาติให้คงอยู่คู่สังคมไทย และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ระหว่างวันที่ 7 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 8 ธันวาคม 2567 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยผู้ที่จะเข้าชมความวิจิตรของการแสดงโขนและการแสดงที่ยิ่งใหญ่ตระการตา สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา โทร. 0-2262-3456 หรือที่ www.thaiticketmajor.com





ภาพโดย โสภน สุเสนา ช่างภาพศูนย์ภาพเนชั่น (NationPhoto)
ข้อมูลอ้างอิง:
https://www.usnews.com/news/best-countries/rankings/heritage

ขอบคุณภาพบางส่วนและข้อมูลจาก : กระทรวงวัฒนธรรม