hifu เจ็บไหม? เจ็บมากขนาดไหน หน้าบวมหรือเปล่า นี่คือคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการเสริมความงามด้วยการทำ HIFU ซึ่งเป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ยิงเข้าใต้ผิวหนังด้วยอุปกรณ์ชนิดพิเศษที่สามารถยิงคลื่นอัลตราซาวนด์ได้ลึกถึงระดับผิวหนังชั้น SMAS จะสามารถเติมเต็ม และยกกระชับผิวหน้าที่มีริ้วรอยมีความหย่อนคล้อยให้กลับมาอิ่มฟู เต่งตึง มีน้ำมีนวล รวมทั้งยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง
หลายคนประสบปัญหากับริ้วรอยตามวัย จากคอลลาเจนลดลงตามอายุ การทำ HIFU จะช่วยเติมเต็มความยืดหยุ่นผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ และยังสามารถทำควบคู่กับการเสริมความงามอื่น ๆ ได้ด้วย ถ้าใครอยากรู้ว่า hifu เจ็บไหม? เรามีคำตอบให้แล้วในบทความนี้
คำตอบ คือ ไม่เจ็บเพราะที่คลินิกเสริมความงาม ของเรามีการทายาชาและการรับประทานยาแก้ปวดก่อนทำ HIFU ซึ่งอยู่ในความดูแลของแพทย์ทุกขั้นตอน โดยจะมีการประเมินสุขภาพในเบื้องต้นดูความพร้อมของผู้ที่จะทำหัตถการด้วย และด้วยเทคโนโลยีใหม่ อุปกรณ์ที่ทันสมัย คลื่นอัลตราซาวนด์ที่ใช้มีระดับพลังงานที่เสถียร พลังงานสม่ำเสมอ ยิงหลากหลายตามระดับความลึกของผิวในบริเวณนั้น ๆ จึงไม่ทำให้เจ็บมากนัก และใช้เวลาไม่นานในการทำ
หลังทำเสร็จแล้วก็สามารถกลับบ้านได้ทันที เป็นการทำหัตถการที่มีความเสี่ยงต่ำ มีผลข้างเคียงน้อย และมีการดูแลหลังทำได้ง่ายมาก อยากให้มั่นใจว่าไม่มีอาการเจ็บมากขนาดนั้นอย่างที่หลายคนคิด ทีนี้คงเข้าใจและเคลียร์กับคำถามที่ว่า hifu เจ็บไหม? กันแล้ว แต่เรื่องน่ารู้สำหรับการเสริมความงามด้วยเทคโนโลยีนี้ก็ยังมีอะไรน่าสนใจ ซึ่งเราก็ขอแนะนำเพิ่มเติมในบทความนี้เลย
นอกจากจะมีคำถามว่าทำ hifu เจ็บไหม? แล้ว ยังมีอีกหนึ่งคำถามยอดฮิตนั่นก็คือ ทำแล้วหน้าเรียวไหม? ริ้วรอยหายไหม? ผิวหน้ากระชับจริงไหม? คำตอบคือจริง ทำแล้วหน้ากระชับ อิ่มฟู ขึ้นเห็นผลได้ทันทีหลังทำ แต่ต้องดูจากปัจจัยหลายด้านประกอบกันด้วย เช่น
นอกจากพิจารณาปัจจัยด้านตัวผู้รับการทำหัตถการแล้ว ยังมีข้อควรพิจารณาอื่น ๆ อีก ดังนี้
สำหรับคำถามต่อมาที่หลายคนสงสัย คือ ต้องเลือกเครื่องทำ HIFU แบบไหนดี? ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ส่งผลกับทั้งคำถามที่ว่าทำ hifu เจ็บไหม? และทำแล้วหน้าเรียวไหม? ซึ่งเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนามาเรื่อง ๆ ก็ส่งผลให้การทำให้ HIFU ได้ประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น และเจ็บน้อยลง ปัจจุบันเครื่องทำ HIFU รุ่นล่าสุดที่คลินิกเสริมความงาม ของเราเลือกใช้นั้น ตอบโจทย์การยกกระชับ ลดริ้วรอยได้จริง นั่นก็คือ Ultramax 7D
ประสิทธิภาพของเครื่อง Ultramax 7D เป็นเครื่องมือเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยเครื่องนี้ใช้เทคโนโลยีคลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง (HIFU) ในการยกกระชับผิวและลดริ้วรอย ได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม โดยเครื่องนี้สามารถยกกระชับผิวได้ลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังชั้นหนังแท้ โดยคลื่นอัลตราซาวนด์จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้น SMAS ทำให้ผิวยกกระชับขึ้นและริ้วรอยลดลง
การทำให้ HIFU ควรเลือกทำกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพราะการยิงคลื่นอัลตราซาวนด์ จะต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์โดยตรง เพื่อกำหนดหัวยิง พลังงานที่ใช้ในการยิง รวมแนวการยิง ให้เหมาะสมกับส่วนต่าง ๆ ของใบหน้า เพื่อให้ผลการยกกระชับที่ดี และไม่ทำให้ผู้รับหัตถการต้องรู้สึกเจ็บปวดในการทำจากการใช้พลังงานที่ไม่เหมาะสม และที่สำคัญเลยแนวการยิงคลื่นอัลตราซาวนด์ จำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญมาก ๆ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดี ในยกกระชับ การลิฟท์กรอบหน้า และการริ้วรอยส่วนต่าง ๆ
บางคนบอกว่าทำ HIFU ยิงเยอะ หลายไลน์ หลายช็อต ยิ่งดี ยิ่งทำให้หน้าเรียวกระชับ ลดเลือนริ้วรอยได้ฉับไว ขอแนะนำว่า อาจจะไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป สำหรับการทำแต่ละครั้งก็จะต้องประเมินโดยแพทย์ก่อน เพื่อรู้สภาพผิวหน้า รู้ปัญหาที่ต้องการแก้ไข แล้วถึงจะประเมินว่าจะต้องทำกี่ไลน์ กี่ช็อต ซึ่งขึ้นอยู่กับจุดที่ต้องการทำด้วย
ดังนั้นจำนวนไลน์ หรือช็อตที่ใช้เยอะ อาจไม่ได้ดีเสมอไป อย่างในคนที่มีปัญหาแก้มตอบ แต่มีร่องแก้มลึก หากทำ Hifu โดยใช้จำนวนช็อตเยอะก็จะยิ่งทำให้แก้มดูตอบกว่าเดิม ผลลัพธ์หลังทำก็อาจไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง และเป็นการสิ้นเปลืองอีกต่างหาก
ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมที่แพทย์ประเมินให้จะดีกว่า โดยมาตรฐานจะเริ่มต้นที่ 100 ไลน์ สำหรับการยกกระชับในส่วนของร่องแก้ม เหนียงใต้คาง หรือทำทุกจุดบนใบหน้าและลำคอก็ประมาณ 1,000 ไลน์ ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้เราบอกตามตรงว่า จะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวหน้าแต่ละคนจริง ๆ ที่ให้ข้อมูลก็จะเป็นการประมาณการคร่าว ๆ ที่พบในคนไข้ส่วนใหญ่เท่านั้น
อีกหนึ่งคำถามที่พบบ่อยในการทำ HIFU คือมีผลข้างเคียงหรือเปล่า? ขอตอบเลยว่าในเรื่องของอาการแพ้ไม่มีแน่นอน เพราะไม่มีการใช้สารเติมเต็มใด ๆ สิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ หลังการทำให้ Hifu มีเพียงอาการเล็กน้อยเหล่านี้ เช่น อาจมีอาการบวม ช้ำ หรือปวดบริเวณใบหน้า โดยแพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลหลังทำให้เป็นอย่างดีละเอียดถี่ถ้วน ไม่ต้องกังวลใจนะจุดนี้
อาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ก็จะหายได้เอง ภายในระยะเวลา 3-7 วัน แต่ก็ขึ้นกับผิวหน้าของแต่ละคน และจำนวนไลน์หรือช็อตที่ทำในแต่ละครั้งด้วย สำหรับบางรายที่ทำน้อยเพียงแค่จุดเล็ก ๆ ก็อาจจะไม่มีอาการบวมหรือช้ำใด ๆ เลย และเมื่อครบระยะเวลาที่แพทย์กำหนดหลักทำแล้ว ก็สามารถแต่งหน้าหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ แต่ก็ควรมีการดูแลเรื่องการใช้ครีมบำรุงผิว เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้ผิวหน้ามีความอ่อนเยาว์ เนียนนุ่ม กระชับมากขึ้น
ได้คำตอบกันไปแล้วว่าการทำ hifu เจ็บไหม? เราได้อธิบายกันอย่างละเอียดในข้อสงสัยหลัก ๆ ที่เป็นคำถามยอดฮิตที่อทิตาคลินิกพบบ่อยกันไปแล้ว การเลือกวิธีการยกกระชับปรับรูปหน้า ลดเลือนริ้วรอยด้วยวิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัย ปลอดภัย คลินิกเสริมความงามของเราใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่าง Ultraformer III ช่วยยกกระชับใบหน้าได้เป็นอย่างดีและถูกพัฒนามาแล้วเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดของผู้ทำหัตถการมากกว่าการทำ HIFU ในแบบเดิม สามารถขอรับคำแนะนำ และสอบถามเพิ่มเติมเบื้องต้นได้ที่อทิตาคลินิกทุกสาขา