svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"อนุชา" ย้ำไทยตั้งเป้าศูนย์กลางผลิต EV 30% ภายในปี 2573

"อนุชา" ย้ำเวทีโลก ประเทศไทยมุ่งมั่นเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสีเขียว ตั้งศูนย์กลางผลิต EV 30% ภายในปี 2573 - ผลิตไฟฟ้าหมุนเวียน 50% ภายใน 2583

นายอนุชา บูรพชัยศรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะกรรมการบริหารหน่วยประจำชาติไทยในสหภาพรัฐสภา ผู้แทนรัฐสภาไทย พร้อมด้วยผู้แทนรัฐสภาไทย เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ในห้วงการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ 150 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการ ที่กรุงทาชเคนต์ สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่ 5 ถึง 9 เมษายน 2568 เพื่อการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามข้อมติรัฐสภา “ความร่วมมือเพื่อการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ: การส่งเสริมการเข้าถึงพลังงานสีเขียวที่ราคาไม่แพง และการรับรองนวัตกรรม ความรับผิดชอบ และความเท่าเทียม” ตามที่ที่ประชุมมีมติเห็นชอบเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้วว่า ประเทศไทยยังคงมุ่งมั่นในการบรรลุวัตถุประสงค์ตามมติดังกล่าว เพราะประเทศไทย ตระหนักว่า การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นความท้าทายครั้งสำคัญ ซึ่งจะต้องอาศัยการมีส่วนร่วม และความรับผิดชอบร่วมกัน รวมถึงการใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ 

\"อนุชา\" ย้ำไทยตั้งเป้าศูนย์กลางผลิต EV 30% ภายในปี 2573

\"อนุชา\" ย้ำไทยตั้งเป้าศูนย์กลางผลิต EV 30% ภายในปี 2573 โดย นายอนุชา ย้ำว่า ประเทศไทย มุ่งมั่นในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสีเขียว กำหนดเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้าของประเทศให้ได้อย่างน้อย 50% ภายในปี 2040 หรือ พ.ศ. 2583 และประเทศไทย กำลังส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสีเขียว โดยตั้งเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาคสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ซึ่งภายในปี 2030 หรือ พ.ศ.2573 ยานยนต์ทั้งหมดที่ผลิตในประเทศไทย สัดส่วน 30% จะเป็นยานยนต์ไฟฟ้า ตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG หรือ Bio Circular Green Economy ของประเทศไทย ซึ่งจะเชื่อมโยงนวัตกรรม เศรษฐกิจ และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ซึ่งกลไกเหล่านี้ได้ถูกกำหนด เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ผลประโยชน์ของการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ จะได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง และไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

\"อนุชา\" ย้ำไทยตั้งเป้าศูนย์กลางผลิต EV 30% ภายในปี 2573

นายอนุชา ยังระบุว่า ประเทศไทยมีความเชื่อมั่นว่า นวัตกรรมจะต้องดำเนินไปควบคู่กับความรับผิดชอบ และความเท่าเทียม ซึ่งรัฐสภาของประเทศไทย พร้อมที่จะร่วมมือกับรัฐสภาทั่วโลก และพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อให้โลกก้าวไปสู่อนาคตที่ครอบคลุม ยืดหยุ่น และยั่งยืนอย่างแท้จริง