ควันหลงศึกซักฟอก พปชร.ซัดปม MOU 2544 เหมือนอภิปราย “บิ๊กป้อม”
ควันหลงศึกซักฟอก พปชร.อัดรัฐบาลปม MOU 2544 เหมือนอภิปราย “บิ๊กป้อม” จากเหตุเคยนั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน JTC เมื่อปี 2564
26 มีนาคม 2568 จากกรณีการ อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา ช่วงหนึ่งที่ นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อภิปรายถึงประเด็นปัญหาเขตแดนไทยกับกัมพูชา ที่มีต้นเหตุมาจาก MOU 2544 นั้น
กรณีดังกล่าว แหล่งข่าวใกล้ชิด พปชร. ระบุว่า การที่พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายเรื่องดังกล่าว ไม่ต่างอะไรกับการอภิปราย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเมื่อปี 2564 พล.อ.ประวิตร คือ ประธานคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (Joint Technical Committee: JTC) นั่นเอง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
ประเด็นนี้เคยมีสื่อหลายสำนักนำไปเผยแพร่ว่า การประชุมคณะกรรมการ JTC ไทย-กัมพูชา ที่มี พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน ได้ดำเนินการเรื่อย ๆ และต่อเนื่อง โดยได้พิจารณาร่างกรอบการเจรจากับฝ่ายกัมพูชา ในการพัฒนาพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชา อ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน (Overlapping Claims Area-OCA) และการแต่งตั้งคณะทำงานไทย-กัมพูชา ว่าด้วยการแบ่งเขตทางทะเล (ฝ่ายไทย) และคณะทำงานไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับระบอบพัฒนาร่วม (ฝ่ายไทย) ไปแล้ว
โดยร่างกรอบที่ฝ่ายเลขานุการกระทรวงการต่างประเทศเสนอให้ JTC พิจารณา ในครั้งนั้น มีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ คือ
1. แก้ปัญหาการอ้างสิทธิทับซ้อนในไหล่ทวีปไทย–กัมพูชา ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 26,000 ตร.กม.
2. ดำเนินการตาม MOU 2544 ให้เกิด “ข้อตกลงแบ่งเขตทางทะเล” และ “ข้อตกลงพัฒนาร่วมทรัพยากรปิโตรเลียม” ใต้เส้นละติจูด 11 องศาเหนือ
3. ใช้กลไกคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคไทย–กัมพูชา (JTC) ที่เคยตกลงกันไว้แล้วเป็นกรอบการเจรจา
องค์ประกอบของคณะกรรมการ JTC ประกอบไปด้วย พล.อ.ประวิตร ที่เป็นประธาน และผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพลังงาน รวมถึงตัวแทนจากภาคส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการเจรจากับทางกัมพูชาของ พล.อ.ประวิตร เกือบจะบรรลุลุข้อตกลงทุกอย่างไปแล้วตั้งแต่ปี 64 แต่เกิดความขัดแย้งขึ้น MOU44 จึงคงค้างไว้เช่นนั้น จนมาถึงรัฐบาลชุดปัจจุบัน แหล่งข่าวคนเดิม ระบุ