25 มีนาคม 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนเสร็จสิ้นการอภิปราย ในค่ำคืนนี้ (25 มี.ค.) ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านตั้งหัวการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ “ดีลแลกประเทศ” โดยระบุว่า หากคำว่า “ดีล” หมายถึงการเจรจาหาข้อสรุปร่วมกันนั้น ตนมองว่า การเมืองทุกที่ในโลก ต้องดีลกันทั้งสิ้น อย่างการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ก็ดีลกับพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกลก็ดีลกับพรรคการเมืองอื่น ๆ
พรรคเพื่อไทย ยกมือโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ด้วยความเชื่อ ตามที่พรรคก้าวไกลยืนยันว่า สามารถรวมเสียงวุฒิสภาได้ครบแล้ว ซึ่งหากวันนั้น พรรคก้าวไกล ทำได้ตามที่ท่านพูด การจัดตั้งรัฐบาลก็สำเร็จได้ ซึ่งสะท้อนว่า ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกล ก็ดีลกับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด และพรรคเพื่อไทย ก็ทำตามดีลนั้น
ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคอันดับ 1 แต่เมื่อจะลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี พรรคอนาคตใหม่ ก็มาดีลให้พรรคเพื่อไทย ยกมือให้กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นพรรคอันดับ 3 พรรคเพื่อไทยก็ตกลง และทำตามดีล รวมถึงยกมือสนับสนุนให้
นายกรัฐมนตรี ยังอธิบายถึงการเลือกตั้งปี 2566 ที่พรรคก้าวไกล เป็นพรรคการเมืองอันดับ 1 มาดีลกับพรรคเพื่อไทย ให้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล พรรคเพื่อไทยก็ตอบตกลง และทำตามดีล ยกมือให้อีกครั้ง ซึ่งในการลงมติครั้งแรกไม่ผ่าน และครั้งที่ 2 พรรคเพื่อไทย ยังยกมือให้อีก ซึ่งตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล ลงเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยก็ยกมือให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของทั้ง 2 พรรคมาตลอด ทุกคนทุกครั้ง และเท่าที่จำได้ พรรคก้าวไกล ไม่เคยยกมือให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทยเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งนายกรัฐมนตรี มองว่า ไม่เป็นไร และเข้าใจว่า เป็นวิถีการเมือง
นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงอีกว่า เมื่อพรรคก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ พรรคเพื่อไทยก็เดินหน้าตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และชอบธรรมตามระบบรัฐสภา และรู้ดีว่า การตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ต้องพบกับความยากลำบาก และต้องอธิบายให้ประชาชนฟัง แต่พรรคการเมือง มีภาระหน้าที่ต่อประชาชน จึงก็ต้องพยายามสุดกำลัง เพื่อผลักดันนโยบายในการแก้ปัญหาประเทศให้ได้ เพราะพรรค เห็นศักยภาพของประเทศ และต้องมีการขับเคลื่อนนโยบายอย่างเร่งด่วน และถ้าพรรคเพื่อไทยไม่เริ่มตั้งแต่วันนั้น วันนี้ประเทศยังติดลบอยู่ และถ้าไม่เริ่มนับหนึ่งแล้ว เมื่อใดประเทศจะได้เดินหน้า และขณะนี้ รัฐบาลได้เพียง 6 เดือน แต่สามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้สูงสุดในรอบ 10 ปี
นายกรัฐมนตรี ยังเชื่อว่า ไม่มีใครอยากตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา แต่วันนี้เพื่อความชัดเจน และสร้างแนวทางการเมืองแบบใหม่ จึงแนะนำว่า พรรคประชาชน ควรประกาศให้ชัดไปเลยว่า ในสมัยการเลือกตั้งหน้าจะร่วม หรือไม่ร่วมรัฐบาลกับใคร พูดให้ชัดตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้ประชาชนได้สบายใจ
นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงกรณีที่ นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน โพกผ้าแดง “เรารักทักษิณ” อภิปรายถึงกระบวนการยุติธรรมไทย และนักโทษในคดีการเมือง รวมถึงการต่อสู้ของประชาชน โดยยืนยันว่า รัฐบาลนี้ เคารพในสิทธิ เสรีภาพ และการแสดงออกของทุกฝ่าย และไม่เคยลืมว่า ครั้งหนึ่งเราเคยบอบช้ำ เจ็บปวด
ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทย ต่อสู้ร่วมกับประชาชน ยืนเคียงข้างอย่างเปิดเผย และในพรรคเต็มไปด้วยสมาชิกที่เคยผ่านสนามการต่อสู้ ภายใต้อุดมการณ์ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีคนเสื้อแดง มีลูกหลานคนเสื้อแดงอยู่ในพรรค แม้อาจไม่ได้พกหมวก หรือพกผ้าพันคอมาอภิปราย แต่ทุกอย่างอยู่ในหัวใจเสมอ