นายกฯ ซัด “กัณวีร์” ปิดตามองโลก-ใช้ 2 มาตรฐานปมส่งกลับอุยกูร์

25 มีนาคม 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนเสร็จสิ้นการอภิปราย ในค่ำคืนนี้ (25 มี.ค.) กรณีที่ นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวหารัฐบาลถึงการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศว่า ประเทศไทย ไม่มีกฎหมายผู้ลี้ภัย เมื่อมีการลักลอบเข้าเมือง เมื่อถูกจับได้ ก็ต้องดำเนินคดีตามขั้นตอน โดยยึดหลักมนุษยธรรม สิทธิมนุษยชน

แต่การขังชาวอุยกูร์ไว้กว่า 10 ปี ประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศแม่ของชาวอุยกูร์ ก็ทวงถาม และไม่มีประเทศอื่นขอรับตัวอย่างเป็นทางการ โดยรัฐบาลได้ ได้เรียกร้องให้ทางการจีนรับรองความปลอดภัย ซึ่งจีนก็ยอมทำมาเป็นหนังสือออกมา จึงถือเป็นพันธสัญญาต่อสังคมโลก รัฐบาลไทยจึงส่งตัวกลับ

และคณะของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพิ่งเดินทางไปติดตามเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งยืนยันได้ว่า ทุกคนปลอดภัย และอยู่ที่บ้าน โดยตนเองเห็นว่า นี่คือวิธีที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย และที่สำคัญคือดีที่สุด สำหรับประเทศไทย
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ส่วนชาวอุยกูร์สมัครใจ หรือต่อว่ารัฐบาลไม่ทำตามใจชาวอุยกูร์นั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ตนพร้อมรับฟังว่า คนไทยต้องการอะไร และสิ่งใดคือประโยชน์สูงสุดของประชาชนไทย ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ตนต้องคิดเป็นอันดับแรก และการส่งชาวอุยกูร์กลับถิ่นกำเนิดไปใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยนั้น ตนมั่นใจว่า เป็นสิ่งที่ดีกว่าทางการไทย ขังชาวอุยกูร์ไว้โดยไม่มีกำหนด และไม่รู้อนาคตที่แน่นอน

ส่วนที่มีบางประเทศประณาม หรือไม่ยอมรับนั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลเคารพในทุกความคิดเห็น และเป็นหน้าที่ที่รัฐบาล ที่ต้องชี้แจงทำความเข้าใจอย่างครบถ้วนรัดกุม ไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งใด ๆ  เพราะการที่ต่างชาติแสดงการกระทำดังกล่าวออกมานั้น ก็ไม่แปลก เพราะประเทศเหล่านั้นไม่ทราบว่า ไทยได้เจรจากับจีนอย่างไรบ้าง
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม

ส่วนที่ นายกัณวีร์ กล่าวหารัฐบาลกระทำผิดในเรื่องการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ย้อนถาม  นายกัณวีร์ว่า พูดโดยการเปิดตามองโลกหรือไม่ เป็นนักสิทธิมนุษยชน ที่ใช้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก หรือสองมาตรฐานเฉพาะกับรัฐบาลนี้ และเท่าที่ตนจำได้ ยังไม่มีพรรคการเมืองใด มีนโยบายเรื่องผู้ลี้ภัย หรือนายกัณวีร์ จะถือโอกาสใช้เวทีการอภิปรายนี้ ประกาศเลยก็ได้ว่า จะทำตามใจ ตามความต้องการของผู้ลี้ภัยในทุกกรณี หรือมีแนวทางอย่างไร เพื่อให้ประชาชนจะได้รับฟัง