“ดร.ณัฏฐ์” ยันผู้นำฝ่ายค้าน ขีดฆ่า แก้ไขลงชื่อกำกับญัตติได้

จากกรณีที่ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ยกคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในปี 2557 ว่า แก้ไขเพียงเล็กน้อย คือ เฉพาะเรื่องพิมพ์ผิดหรือวรรคตอนเท่านั้น แต่ถ้าสาระสำคัญ ต้องเอาญัตติออกไป แก้ไขมาใหม่และเซ็นชื่อมาใหม่ เพราะคนเข้าชื่อในญัตติเขาเพิ่งประสงค์ว่า เมื่อร่วมกันเข้าชื่อแล้วญัตติสมบูรณ์ หากมีการแก้ไขจะต้องแก้ไขเป็นหมู่คณะโดยการเข้าชื่อกัน ไม่ใช่มาขีดฆ่าแล้วเขียนคนเดียว เพราะไม่ใช่เจตนารมย์

ล่าสุด “ดร.ณัฏฐ์” ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญเป็นกลไกในระบบรัฐสภา เพื่อตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหาร คำว่า “เข้าชื่อ” หมายความว่า สส.จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้า ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ลงลายชื่อในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคลหรือคณะ

อธิบายความได้ว่า ให้พิจารณาว่าลายชื่อครบหรือไม่ ขณะเข้าชื่อเสนอญัตติฯ จำนวน สส.ครบ 1 ใน 5 หรือไม่ เท่านั้น ในทางปฏิบัติ คือ ล่ารายชื่อให้ครบตามเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ เช่น สส.จำนวน 500 คน ต้องล่ารายชื่อลงชื่อกันจำนวน 100 คน ครบเงื่อนไขหนึ่งในห้า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 เมื่อครบเงื่อนไขในการเข้าชื่อ ต้องไปพิจารณาตามระเบียบข้อบังคับการประชุมสภาฯ ก่อนบรรจุ ประธานสภาจะต้องตรวจสอบว่า ญัตติสมบูรณ์หรือไม่

หากพบว่า มีข้อบกพร่อง สามารถสั่งให้ผู้นำฝ่ายค้านเพียงคนเดียวสามารถแก้ไขให้ถูกต้องได้ ไม่จำต้องถอนร่างแล้วไปล่ารายชื่อใหม่ ดังนั้น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.พรรคประชาชน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเพียงคนเดียวสามารถแก้ไขได้ ไม่ผิดข้อบังคับการประชุมสภาฯ 
“ดร.ณัฏฐ์” ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน
 

ดร.ณัฏฐ์ กล่าวว่า ตนเห็นว่า นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.เพื่อไทย พยายามตีรวน เล่นใหญ่ก่อนศึกอภิปราย ภาษาชาวบ้าน เรียกว่า ลูกเล่นตุกติก ขาประจำ ขององครักษ์พิทักษ์นาย ไม่ใช่พิทักษ์ข้อบังคับการประชุม เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎร ตามระเบียบข้อบังคับการประชุมสภาฯ

ส่วนคำว่า การแก้ไขข้อบกพร่องของญัตติ ระเบียบข้อบังคับการประชุมฯ ไม่ได้กำหนด วิธีการ และรูปแบบไว้ ดังนั้น จะใช้วิธีการขีดฆ่า เขียนข้อความใหม่ และลงชื่อกำกับ ถือว่าแก้ไขข้อบกพร่องชอบด้วยกฎหมายแล้ว ดังนั้นที่นายประยุทธ์ ยกอ้างคำวินิจฉัยรัฐธรรมนูญ น่าจะเข้าใจคลาดเคลื่อนในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ประกอบกับอำนาจชี้ขาดว่า ญัตติชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นอำนาจของประธานสภาผู้แทนราษฎร

อธิบายความได้ว่า คำว่า "แก้ไขข้อบกพร่อง" แตกต่างคำว่า “แก้ไขเล็กน้อย” ในชั้นพิจารณาของศาลไม่ว่าคดีแพ่ง คดีอาญา คดีปกครอง หรือคดีรัฐธรรมนูญ เพราะการแก้ไขข้อบกพร่อง ไม่จำต้องระบุหน้า วรรค บรรทัด หรือตอนใด เหมือนกับแก้ไขเล็กน้อยในคดีทั่วไป

ดังนั้น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.พรรคประชาชน ผู้นำฝ่ายค้าน สามารถแก้ไข โดยวิธีขีดฆ่าในร่างญัตติได้
นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.เพื่อไทย

ดร.ณัฏฐ์ กล่าวอีกว่า ที่ถามว่า ส่วนการแก้ไข จะต้องให้ สส.ที่ลงชื่อใหม่ ตามมาตรา 151 หรือไม่ นั้น อธิบายความว่า การแก้ไขข้อบกพร่อง ตามข้อบังคับการประชุม กับการเข้าชื่อตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151  ต้องแยกองค์ประกอบต่างหากจากกัน ในเมื่อนายณัฐพงษ์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน เป็นผู้นำเสนอญัตติ การแก้ไข ลงนามแก้ไขสามารถกระทำได้เพียงผู้เดียว ไม่จำต้องถอนร่างญัตติ ไปล่ารายชื่อใหม่ การที่นายณัฐพงษ์ ลงนามขีดฆ่า แก้ไข ลงชื่อกำกับการแก้ไข ถือว่า กระบวนการแก้ไขข้อบกพร่องของญัตติชอบด้วยกฎหมาย

ส่วนที่ นายประยุทธ์ ยกคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่า แก้ไขเล็กน้อยไม่ชอบ เฉพาะพิมพ์ผิด หรือวรรคตอนเท่านั้น น่าจะเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะแก้ไขข้อบกพร่องในขั้นตอนก่อนบรรจุวาระ นั้น ถือว่า ญัตติยังไม่ได้บรรจุ วิธีการแก้ไขก่อนบรรจุวาระ สามารถแก้ไขด้วยวิธีแก้ไขข้อความในเอกสารและลงชื่อกำกับได้

แต่หากประธานสภาผู้แทนราษฎรรับบรรจุแล้ว กระบวนการแก้ไขข้อบกพร่อง ต้องยื่นแก้ไข ข้อพิมพ์ผิดพลาด ในหน้าใด บรรทัด หรือวรรคใด แตกต่างจากก่อนบรรจุวาระ ต้องทำความเข้าใจให้แก่พี่น้องประชาชนเข้าใจ ไม่สับสน