svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"สวนดุสิตโพล" ชี้รัฐบาลใหม่ทำไมไม่แตกต่าง แก้ปัญหา"ค่าครองชีพ"

"สวนดุสิตโพล" เผย ประชาชน อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหา"ค่าครองชีพ"อย่างเร่งด่วน แต่เกินครึ่ง เชื่อว่า รัฐบาลทำไม่สำเร็จ

16 มีนาคม 2568  สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ปัญหาเร่งด่วนของคนไทย ณ วันนี้” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,264 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 11 – 14 มีนาคม 2568  พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มองว่าปัญหาเร่งด่วนที่อยากให้รัฐบาลแก้ไขมากที่สุด คือ ปัญหาค่าครองชีพ ราคาสินค้า ร้อยละ 72.55 แต่ก็ไม่คิดว่าจะแก้ปัญหานี้ได้สำเร็จ ร้อยละ 68.80 

ปัญหาที่พบในช่วงรัฐบาลแพทองธาร เมื่อเปรียบเทียบกับรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ มองว่าปัญหายังมีเหมือนเดิม ยังไม่เห็นการแก้ไขที่ชัดเจน เช่น ทุจริตคอร์รัปชัน การเมือง ร้อยละ 43.75 ด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท ในกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 34.18 มองว่าพอจะช่วยได้บ้าง อาจกระตุ้นในช่วงสั้น ๆ แต่ไม่ส่งผลระยะยาว

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า จากผลโพลสะท้อนชัดว่า “ปัญหาปากท้อง” ยังคงเป็นความกังวลหลักของประชาชน แม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาลแต่หลายปัญหายังคงเดิมโดยยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ทั้งปัญหาทุจริต คอร์รัปชัน ปัญหาการเมือง หรือค่าครองชีพที่พุ่งไม่หยุด ด้านมาตรการแจกเงินหมื่นก็ยังถกเถียงกันถึงเรื่องประสิทธิภาพ เมื่อรวมทุกปัจจัยเข้าด้วยกันประชาชนจึงรู้สึกว่า “รัฐบาลก็ใหม่..แต่ทำไมยังไม่แตกต่าง?”

\"สวนดุสิตโพล\" ชี้รัฐบาลใหม่ทำไมไม่แตกต่าง แก้ปัญหา\"ค่าครองชีพ\"

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิริมา บุญมาเลิศ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า จากผลโพลสะท้อนให้เห็นว่าปัญหาด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับปากท้องของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่ประชาชนคาดหวังให้รัฐบาลแก้ไขให้ดีขึ้น แต่เสียงของประชาชนกลับสะท้อนออกมาว่า รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องปากท้องให้ดีขึ้นได้  แม้ว่ารัฐบาลได้ผลักดันนโยบายแจกเงิน 10,000 บาท เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาแล้วก็ตาม 

แต่ประชาชนยังมองว่า การแก้ปัญหายังไม่ตรงจุด เพราะตัวเลขจีดีพีที่รัฐบาลแถลงออกมาว่าขยับตัวดีขึ้นและจะโตมากขึ้นไปอีก กลับสวนทางกับสภาพเศรษฐกิจที่หดตัวและซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ประชาชนมองว่านโยบายแจกเงิน 10,000 บาท ช่วยแก้ปัญหาปากท้องได้เพียงเล็กน้อยระยะสั้น

แต่ประชาชนยังมองว่า การแก้ปัญหายังไม่ตรงจุด เพราะตัวเลขจีดีพีที่รัฐบาลแถลงออกมาว่าขยับตัวดีขึ้นและจะโตมากขึ้นไปอีก กลับสวนทางกับสภาพเศรษฐกิจที่หดตัวและซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ประชาชนมองว่านโยบายแจกเงิน 10,000 บาท ช่วยแก้ปัญหาปากท้องได้เพียงเล็กน้อยระยะสั้น

แต่ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่สำคัญเร่งด่วน อาทิ ค่าครองชีพ ราคาสินค้า และหนี้สิน ได้ในระยะยาว เมื่อนำผลงานของรัฐบาลปัจจุบันไปเปรียบเทียบกับรัฐบาลชุดที่แล้ว จึงทำให้ประชาชนมองว่ายังไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ดีกว่า ซ้ำร้ายปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันยังมีมากกว่ารัฐบาลชุดก่อนที่ฉุดรั้งการพัฒนาประเทศมากขึ้นไปอีก