3 กันยายน 2566 “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “รัฐบาลใหม่ กับ การท่องเที่ยว” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,114 คน สำรวจระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม -1 กันยายน 2566 พบว่า
กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 40.13 มีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยว โดยจังหวัดที่อยากไปมากที่สุด คือ เชียงใหม่ ร้อยละ 36.96
รองลงมาคือ เพชรบูรณ์ ร้อยละ 26.09
สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอาจกระทบต่อการเดินทาง ร้อยละ 70.77
ควรมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีลักษณะเฉพาะถิ่นแต่ละภูมิภาค ร้อยละ 38.41
โดย “ดุสิตโพล” ยังระบุด้วยว่า จากผลการสำรวจสะท้อนให้เห็นว่า คนไทยอยากให้รัฐบาลสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศให้มากขึ้น ดึงจุดเด่นของแต่ละพื้นที่ขึ้นมาเป็นจุดขายใหม่ ๆ ในระยะสั้นก็อยากให้จัดแคมเปญลดราคา ช่วยค่าเดินทางต่าง ๆ ถึงแม้จะเป็น ฤดูฝนซึ่งทำให้ยังกังวลเรื่องการเดินทาง แต่ก็พร้อมจะท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย เมื่อรัฐบาลใหม่เดินเกมเรื่องการท่องเที่ยวขึ้นมาแล้ว ก็ควรเร่งจับจุดความต้องการของนักท่องเที่ยว เพื่อขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ด้าน ดร.ปาริฉัตร พรหมสวัสดิ์ รองคณบดีโรงเรียนการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า การวิเคราะห์นโยบายด้านการท่องเที่ยวของรัฐบาลใหม่ พบข้อสังเกตว่า มีเป้าหมายส่งเสริมให้การท่องเที่ยวเป็นกลไกสำคัญในการสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ เหมือนช่วงก่อนสถานการณ์ COVID-19 ด้วยเป้าหมายการเป็น Wellness Destination เน้นการพัฒนาแบบองค์รวม ส่งเสริมเรื่องสุขภาวะดี รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยว โดยมีองค์ประกอบสำคัญ เช่น แหล่งท่องเที่ยว ที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวก และกิจกรรมที่ต้องมีผู้ให้บริการที่มีองค์ความรู้ และความพร้อมในเรื่องการให้บริการนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
ซึ่งการผลักดันนโยบายให้ประสบความสำเร็จ ต้องใช้ระยะเวลาควบคู่ไปกับการมุ่งเน้น การพัฒนาอย่างยั่งยืนในหลากหลายมิติ นอกจากนี้นโยบายที่น่าสนใจของรัฐบาลใหม่ คือการให้ความสำคัญกับการสนับสนุนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าสู่ประเทศไทยมากขึ้น เช่น การพัฒนาระบบตรวจเอกสารสนามบิน ปลดภาระขอวีซ่า ฟรีวีซ่าจีน และ Regional transport hub ฯ หรือการสร้างกิจกรรมที่ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวในระยะสั้น เช่น Festival Hub of Asia การจัดเทศกาลหลากหลายรูปแบบ