"ผบ.ทบ." กำชับ เร่งติดตามผู้ก่อเหตุก่อความไม่สงบ"ชายแดนใต้"

9 มีนาคม 2568 พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุลอบยิง และวางระเบิดในหลายจุด ที่ จ.นราธิวาส และ จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บหลายราย ว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้รับรายงานแล้ว และรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัว และญาติของผู้สูญเสีย

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุได้สั่งการ ให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้การดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้อย่างดีที่สุด พร้อมกำชับให้กำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัย เฝ้าระวังป้องกันการก่อเหตุในบางจุด

โดยเฉพาะจุดที่ยังไม่สมบูรณ์เพียงพอ ให้เร่งปรับปรุงเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้ผู้ไม่หวังดีมีช่องทางที่จะก่อเหตุได้ ซึ่งการก่อเหตุไม่เพียงแค่ต้องการสร้างสถานการณ์เพียงอย่างเดียว

แต่ยังต้องการมุ่งให้เกิดผลกระทบไปถึงการสูญเสีย ทั้งที่บาดเจ็บ และยังส่งผลกระทบต่อประชาชนด้วย จึงขอให้เร่งติดตามนำตัวผู้กระทำผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็วที่สุดต่อไป

โฆษก ทบ. ชี้ BRN ยังไม่มีท่าทีลดก่อเหตุช่วงรอมฎอน

โฆษกกองทัพบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเทศกาลรอมฎอนปีนี้ รัฐบาลมุ่งสร้างบรรยากาศสันติสุขเพื่อให้พี่น้องมุสลิมในพื้นที่สามารถปฏิบัติตามวิถีแห่งศาสนา ได้อย่างสงบสุข โดยสมบูรณ์ และ ปลอดภัย ดังนั้น เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจึงได้พยายามประสานขอความร่วมมือจากคนในพื้นที่ โดยประชาสัมพันธ์ผ่านทุกช่องทางของการสื่อสาร ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี รวมถึงพยายามสื่อสารกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในทุกช่องทาง 

แต่เป็นที่ทราบกันว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง BRN ยังไม่มีท่าทีที่จะให้ความร่วมมือในห้วงเดือนรอมฎอน และได้ก่อเหตุทั้งการลอบยิง ลอบวางระเบิดในหลายพื้นที่ มาตามลำดับ รวมถึงการโจมตีทำการฝ่ายปกครอง จนทำให้เจ้าหน้าที่ และประชาชน  บาดเจ็บ เสียชีวิตหลายราย สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่ม BRN ไม่เคารพต่อความปรารถนาในสันติสุขของพี่น้องไทยมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีเจตนาที่จะละเมิดกฎหมายของสังคม ด้วยการก่อความรุนแรง ทำลายสถานที่ราชการ และระบบสาธารณูปโภค 

ทั้งนี้ กอ.รมน. และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ยืนยันที่จะควบคุมและรักษาพื้นที่ให้ปลอดภัยอย่างดีที่สุด โดยสถานการณ์ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องควบคุมพื้นที่เพิ่มมากขึ้น และปฏิบัติการเชิงรุกที่จำเป็น เพื่อปกป้องประชาชน ให้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และสามารถปฏิบัติศาสนกิจในเดือนรอมฎอนได้โดยสันติสุข จึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และขอให้มีความเชื่อมั่นต่อเจ้าหน้าที่