“ข่าวข้นคนข่าว” ได้หลักฐานสำคัญ เป็นผลการสืบสวนของ ดีเอสไอ ที่ส่งให้ กกต.เพื่อแจ้งผลการสืบสวนที่ได้ทำมาตลอดหลายเดือน และ กกต.ขอทราบรายละเอียดที่ได้จากการทำงานของ ดีเอสไอ หลักฐานที่ว่านี้เป็น “หนังสือของดีเอสไอ” ซึ่งส่งถึงประธาน กกต. แฉซ้ำอาจโยงคนสนิท “บิ๊กการเมืองพรรคใหญ่”
“ข่าวข้นคนข่าว” สรุปหลักฐานที่ได้จากการทำงาของ ดีเอสไอ เกี่ยวกับ “โพยฮั้ว สว.” ดังนี้
คำร้องที่ ดีเอสไอ รับสอบ มี 3 คำร้อง คือ
คำร้องที่ 1 พล.ต.ต. “อ.” ร้องสอบการคัดเลือก สว. จังหวัดปทุมธานี
คำร้องที่ 2 นาย “ภ.” ร้องให้ตรวจสอบการเลือก สว.ทั้งระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ เพราะพบข้อพิรุธในกระบวนการคัดเลือก
คำร้องที่ 3 นาย” ท.” ร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้ารับการคัดเลือก สาย ข กลุ่มที่ 1 และกลุ่ม 18
จากนั้น อธิบดีดีเอสไอได้แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวน และเริ่มดำเนินการสืบสวนตามแนวทางที่วางไว้
- การบันทึกถ้อยคำพยานบุคคล
- การตรวจพิสูจน์ พยานหลักฐานทางดิจิทัล
- การตรวจสถานที่เกิดเหตุ สถานที่จัดฮั้ว สว.
- การตรวจสอบพยานหลักฐานที่เป็นเอกสารเกี่ยวกับโพยฮั้ว สว.
- การตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ ฮั้ว สว.
ข้อมูลหลักฐานที่ได้ สรุปได้ว่า...
- มีขบวนการในรูปแบบคณะบุคคล จัดตั้งเครือข่ายขบวนการซึ่งปกปิดวิธีการ มีวัตถุประสงค์เพื่อฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการการได้มาซึ่ง สว.
- มีการวางแผนสลับซับซ้อน คัดเลือกเฉพาะคนในกลุ่มขบวนการ กล่าวคือ
1.ขบวนการได้จัดการให้มีผู้สมัคร สว.ในระดับอำเภอ โดยสมัครกลุ่มละ 5 คน รวม 100 คน จำนวน 928 อำเภอ (หลักเกณฑ์เข้ารอบ เลือกได้ 5 คน) จึงทำให้บางจังหวัดมีผู้สมัครจำนวนมาก
2.มีค่าตอบแทน ระดับอำเภอ จำนวน 5,000 บาท ระดับจังหวัด จำนวน 10,000 บาท และระดับประเทศ จำนวน 40,000 ถึง 100,000 บาท
3.ถ้าได้ สว.มากกว่า 120 คน จะได้เพิ่มอีก 100,000 บาท
เป็นไทม์ไลน์ช่วงไคลแม็กซ์
16 มิ.ย.67 หลังผ่านการคัดเลือกระดับจังหวัด ขบวนการได้นัดหมายผู้สมัครที่เข้ารอบระดับประเทศ ไปจัดทำโพยฮั้วที่อยุธยา ปทุมธานี และนครนายก
24 มิ.ย.67 - 16.00 น. มีการจ่ายเงินสดเป็นมัดจำ จำนวน 20,000 บาท ส่วนที่เหลือได้รับภายหลังจาก กกต.รับรองผลเลือกแล้ว
- โพยฮั้ว สว.มีหมายเลข จำนวน 2 ชุด กลุ่มละ 7 คน รวม 140 คน
- การเลือกระดับประเทศ ขบวนการจัดตั้งมีผู้สมัครของตน 1,200 คน
26 มิ.ย.67 - เวลา ตี 5 ขบวนการได้แจกเสื้อสีเหลืองให้กับผู้สมัคร สว.ระดับประเทศ
- จัดหารถตู้ไปส่งผู้สมัครในขบวนการที่เมืองทองธานี ทั้งรอบเช้า รอบไขว้ ผลออกมาตามโพย
โพยฮั้ว สว. จำนวน 2 ชุด กลุ่มละ 7 คน เป็นผู้ได้รับเลือกเป็น สว.จำนวน 138 คน และอยู่ในลำดับสำรอง 2 คน
แฉมีฝ่ายไอที - นักคณิตศาสตร์ - กลุ่มพลีชีพ ซึ่งดีเอสไอเห็นว่า การกระทำทั้งหมดนี้เข้าข่ายผิด ดังนี้
- พ.ร.ป.การได้มาซึ่ง สว.
- ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 (ความผิดฐานอั้งยี่)
- ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (3) กระทำการใดๆ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน
- พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
เป้าหมาย : มุ่งหวังให้ได้มาซึ่งอำนาจนิติบัญญัติ
วิธีการ : วางแผนตั้งแต่ก่อนเริ่มกระบวนการเลือก / ระหว่างการคัดเลือก / และหลังจากคัดเลือกเสร็จแล้ว
- มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม มีการแบ่งแยกหน้าที่ มีฝ่ายไอทีเตรียมโปรแกรมคำนวณการลงคะแนน ออกเป็นโพยฮั้วเพื่อให้ได้ผลลัพธ์จำนวน สว.ตามที่ต้องการ
- เตรียมบุคคลที่มาลงคะแนนที่เรียกว่า “กลุ่มพลีชีพ”
ทำไมต้องรับเป็นคดีพิเศษ
- กลุ่มขบวนการมีการวางแผนที่สลับซับซ้อน
- กระทำการอุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง
- มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลที่ยังไม่ได้พิสูจน์ทราบอีกจำนวนมาก
- จำเป็นต้องใช้วิธีการรวบรวมหลักฐานเป็นพิเศษ
(ตรวจสอบร่องรอยการติดต่อสื่อสาร เส้นทางการเงิน สถานที่จัดประชุม วางแผน สถานที่พบปะติดต่อ / พิสูจน์ทราบกลุ่มบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญด้านไอทีที่เข้ามาร่วมสนับสนุน / พยานสำคัญอาจจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยาน เพราะกลัวอันตรายต่อชีวิตและร่างกาย)
ข้อมูลโทรศัพท์โยงคนสนิท “บิ๊กการเมืองพรรคใหญ่”
ส่วนข้อมูลนี้ ไม่ได้อยู่ในเอกสารที่ดีเอสไอ ส่งรายงานต่อ กกต. แต่เป็นข้อมูลที่ “ข่าวข้นคนข่าว” ตรวจสอบได้มาเพิ่มเติมจาก “ทีมสืบสวน” นั่นก็คือ
1.มีข้อมูลการเข้าพักในที่พัก โรงแรม ที่เดียวกันอย่างผิดปกติ โดยจองมาล่วงหน้า ทั้งที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน กระบวนการจองมีผู้รับจัดการ
2.มีข้อมูลการใช้โทรศัพท์เป็นกลุ่มก้อนเชื่อมโยง มีผู้ประสานงานซึ่งเกี่ยวข้องกับนักการเมืองใหญ่ และพรรคการเมืองใหญ่บางพรรค
3.ผู้ประสานงานมีการใช้โทรศัพท์โทรหาคนใน “องค์กรอิสระ” ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการคัดเลือก สว. บ่อยครั้งจนผิดปกติ
4.มีการนัดพบปะกันล่วงหน้า ตั้งแต่ก่อนเลือก ระหว่างการคัดเลือก และภายหลังคัดเลือกเรียบร้อยแล้ว มีการนัดหมายเหมือนเลี้ยงฉลอง ณ สถานที่แห่งหนึ่งซึ่งมีความเกี่ยวพันกับนักการเมืองใหญ่ และพรรคการเมืองใหญ่ ซึ่งรายชื่อที่ไปร่วมงานตรงกับ “โพยฮั้ว สว.”
5.หลังจากได้รับการรับรองจาก กกต. ปรากฏว่า สว.ตามรายชื่อที่อยู่ในโพย มีการกระจายกันไปรับตำแหน่งประธาน และกรรมาธิการคณะต่างๆ มีการลงมติอย่างสอดคล้องไปในทางเดียวกันอย่างผิดสังเกต
กระฉ่อน! โทรล็อบบี้กรรมการคดีพิเศษ
มีรายงานว่าคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ.ที่จะประชุมกันในสัปดาห์นี้ มีกรรมการหลายคนถูกผู้ยิ่งใหญ่ในวงการการเมืองโทรหา ในลักษณะ “โทรล็อบบี้” ไม่ให้กรรมการลงมติรับเป็นคดีพิเศษ / บางรายถูกขอกันตรงๆ / ขณะที่บางรายมีข้อมูลว่า ถูกขู่อ้อมๆ ด้วย เพื่อโน้มน้าวไม่ให้รับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ เราไปดูกันว่าคณะกรรมการมีใครบ้าง