20 กุมภาพันธ์ 2568 ความคืบหน้าของการส่งเหยื่อขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน จากเมียวดีกลับประเทศ โดยภาพรวมตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ช่วงเช้า จนถึงเวลา 13.40 น. สำหรับ 3 เที่ยวบินในวันแรก ที่ได้นำเหยื่อจากขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ที่ได้รับการช่วยเหลือเดินทางจากเมียวดี ข้ามมายังประเทศไทย ผ่านทางสะพานมิตรภาพไทยเมียนมาแห่งที่ 2 เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบและบันทึกข้อมูล ด้วยระบบไบโอเมทตริกซ์ ของทางสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งแต่ละคนจะใช้เวลาประมาณ 2-5 นาที
จากนั้น ก็นำตัวเหยื่อชาวจีน เดินทางต่อมาที่สนามบินแม่สอด เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบบุคคลว่า หมายเลขชื่อตรงกันหรือไม่ ก่อนจะทำการตรวจสอบสิ่งของวัตถุต้องห้าม และให้ขึ้นเครื่องบินเพื่อส่งกลับประเทศจีน ด้วยสายการบิน ไชน่า ซาวเทิร์น แอร์ไลน์
เที่ยวบินแรก กลับไปในเวลา 11.30 น. เที่ยวบินที่สองกลับไปในเวลา 12.50 น. และเที่ยวบินที่สาม กลับไปในเวลา 13.40 น. เที่ยวบินละ 50 คน จากนั้นเที่ยวบินสุดท้ายของวันนี้ อีก 48 คน ได้กลับออกไปในเวลาประมาณ 17.40 น.
ซึ่งในเที่ยวบินนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และ นายอ่อง จอจอ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แห่งสหภาพเมียนมา ได้มาติดตามดูการส่งคนจีนกลับประเทศในขั้นตอน การตรวจวัตถุอันตรายและสิ่งของต้องห้ามก่อนขึ้นเครื่อง ด้วยตนเอง ก่อนที่ ผู้นำทั้ง 3 ประเทศ จะเข้ารับฟังการบรรยายสรุปภาพรวม ของการดำเนินการส่งคนกลับในวันแรก ซึ่งในวันนี้ส่งคนจีนกลับทั้งหมด 198 คน
นายภูมิธรรม บอกว่า การมาครั้งนี้เป็นรูปธรรมว่า มีความร่วมมือของ 3 ฝ่าย และหลังจากนี้จะมีการพูดคุยไตรภาคีระดับรัฐมนตรี 3 ฝ่าย พร้อมย้ำว่าไทยจะรับเหยื่อชุดนี้เป็นชุดสุดท้าย ตามข้อตกลงที่คุยกัน หลังจากนี้ยังมีความเห็นที่แตกต่าง แต่ไม่ใช่ขัดแย้งกัน ก็จะมีการคุยกันในไตรภาคี ให้ตกลงกันให้ได้ในไตรภาคี
ซึ่งกระบวนการหลังจากนี้ จะดูที่ความพร้อมของสถานทูตแต่ละประเทศว่า มีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน หากมีความพร้อมรับคนของชาติตนเองกลับ ก็ให้ประสานมาได้ แต่หากชาติไหนที่ไม่มีความพร้อมก็จะไม่รับเข้าประเทศ
ส่วนเรื่องไบโอเมทริกซ์ ยืนยันว่า ก็มีการดำเนินการ ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการกฎหมายทั้งสิ้น เพราะการตรวจสอบที่ชายแดนเมียนมา จนจบกระบวนการ มีเจ้าหน้าที่ไทยเข้าร่วมตรวจสอบด้วย และมีกระบวนการเหมือนกับการให้คนเข้าเมือง ดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตามหลักสิทธิมนุษยชน
นายภูมิธรรม ยังบอกอีกว่า ตนรู้สึกไม่สบายใจที่มีกระแสข่าวว่า มีการสอดแทรกคนอุยกูร์เข้าไปใน กลุ่มคนจีนที่จะส่งกลับประเทศด้วย พร้อมระบุเหตุผลไม่ให้บันทึกภาพบริเวณสะพานไทยเมียนมา เพราะเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน ที่แต่ละประเทศต้องคุ้มครองและตรวจสอบ
กลุ่มประเทศที่มีปัญหาในการส่งตัวกลับ คือกลุ่มประเทศแอฟริกา โดยเฉพาะเอธิโอเปีย ซึ่งหลังจากนี้หากมีกลุ่มคนที่ไม่มีสถานทูตมารับกลับประเทศต้นทาง จะปฏิเสธการรับเข้าประเทศ ซึ่งรวมทุกชนชาติ ไม่เพียงแค่เฉพาะแถบแอฟริกาเท่านั้น
ส่วนกระบวนการคัดกรองตามกลไกล NRM นายภูมิธรรมยืนยันว่า มีกระบวนการนี้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ เรายังได้สอบถาม นายหลิวจงอี้ เป็นภาษาจีน ว่า "จินเทียนกงจั้วห่าวมา" ที่แปลว่า การทำงานในวันนี้ ถือว่าดีหรือไม่ และเป็นการถามซ้ำ 2 ครั้ง ซึ่ง นายหลิวจงอี้ พยักหน้าตอบรับ ก่อนจะไม่ตอบคำถามอื่นอีก
นายหลิวจงอี้