"สตม." ยันใช้ "ไบโอเมทริกซ์" เก็บข้อมูลคนจีนทั้งหมด ก่อนส่งกลับ
"สตม." ยันใช้ "ระบบไบโอเมทริกซ์" เก็บข้อมูลคนจีนเหยื่อแก๊งคอลเมียวดี ก่อนส่งขึ้นเครื่องบินกลับแผ่นดินใหญ่ สั่งขึ้นแบล็กลิสต์ทั้งหมด
20 กุมภาพันธ์ 2568 ความคืบหน้าการส่งกลับเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ที่ช่วยจากเมืองเมียวดี ข้ามมายังประเทศไทย เพื่อเดินทางกลับประเทศจีน ซึ่งวันนี้ทางการจีนได้ส่งเครื่องบินมารับชาวจีนที่ตกเป็นเหยื่อ ที่สนามบินแม่สอด จ.ตาก
โดย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.เผยถึงขั้นตอนของสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองว่า เมื่อมาถึงที่สะพานมิตรภาพไทยเมียนมาแห่งที่ 2 เจ้าหน้าที่จะทำการเก็บข้อมูล และตรวจสอบข้อมูลด้วยระบบไบโอเมตริกซ์
ซึ่งจากเดิมมีอุปกรณ์ทั้งหมด 10 เครื่อง วันนี้เสริมเข้ามาอีก 7 เครื่อง รวมเป็น 17 เครื่อง ในการช่วยตรวจสอบและบันทึกข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล ก่อนที่จะผลักดันกลุ่มคนเหล่านี้ออกนอกประเทศ เพราะเป้าหมาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติคือ ปฏิเสธคนกลุ่มนี้ในการอยู่ในประเทศไทย ภาพรวมในการสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ทั้งนี้จากการตรวจสอบ ชาวจีนที่ถูกส่งกลับทั้งหมด 198 คน จากรายชื่อเดิม 200 คน เนื่องจาก 2 คนมีอาการป่วย ยังอยู่ที่ฝั่งเมียวดี ทั้ง 198 คน เบื้องต้นโอเวอร์สเตย์ อยู่ในประเทศเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และส่วนใหญ่ไม่มีพาสปอร์ต แต่ทางการเมียนมาออกเป็นเอกสาร CI มาให้ แม้จะไม่มีพลาสปอร์ต แต่ระบบไบโอเมทิกซ์ของไทย สามารถทำการตรวจสอบข้อมูลได้
และจากการตรวจสอบหมายจับสากล เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีหมายจับเช่นกัน แต่เป็นการตรวจสอบแค่วันนี้เท่านั้น โดยทางการไทยได้เก็บข้อมูลทุกคนไว้หมดแล้ว และจะนำไปตรวจสอบโดยละเอียด รวมไปถึงบุคคลทั้งหมดที่ทางการจีนมารับตัว เมื่อ สตม.เก็บข้อมูลไว้แล้ว ก็จะขึ้นแบล็กลิสต์ ห้ามเข้าไทยทั้งหมด ทั้งนี้ พล.ต.ต.พันธนะ ยืนยันว่า ในการส่งตัวชานจีนครั้งนี้ ไม่มีการส่งตัวชาวอุยกูร์จาก ตม.สวนพลู ไปด้วยอย่างแน่นอน
