เปิดข้อมูล"ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์" จ.สงขลา พร้อมรับ"ครม.สัญจร"
สำนักโฆษก พาคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ศึกษาข้อมูลแนวทางรองรับรถไฟรางคู่ -การเพิ่มจำนวน นักท่องเที่ยว
16 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นำโดย "นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จัดกิจกรรม Press Tour นำคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่"ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์"อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2568 เพื่อศึกษาข้อมูลแนวทางรองรับรถไฟรางคู่จากปาดังเบซาร์-หาดใหญ่ และการเพิ่มจำนวน นักท่องเที่ยวจากมาเลเซียและชาติอื่นๆเข้ามาประเทศไทย โดยการท่องเที่ยวทางราง
ขณะที่ "นายหะริน หอวัง"นายด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ กล่าวว่า ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ จะเปิดระหว่างเวลา 5.00 -21.00 น. ของทุกวันโดยปฏิบัติงานร่วมกันแบบ "One Stop Service"ด่านศุลกากร ด่านตรวจคนเข้าเมืองและหน่วยควบคุมอื่นๆที่เกี่ยวกับข้องที่นำเข้าและส่งออก ซึ่งจากข้อมูลปัจจุบัน พบว่ามูลค่าทางการค้าและการท่องเที่ยว มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยด่านศุลกากรปาดังเบซาร์สามารถจัดเก็บรายได้สูงถึง 4,664 ล้านบาทต่อปี มีมูลค่าทางการค้า ระหว่าง 1.4 -1.7 แสนล้านบาทต่อปี ขณะที่ ปริมาณรถบรรทุกเข้า-ออกมีจำนวน 1.5 แสนคันต่อปี รถยนต์ส่วนบุคคคลเข้า-ออก 1.9 แสนคันต่อปี นักท่องเที่ยวและคนเดินทางเข้า-ออก 2.9 ล้านคนต่อปี
ส่วนอุปสรรคที่เผชิญนั้น "ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์" ไม่มีลานขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ และเครนยกตู้ เพื่อเปลี่ยนถ่ายตู้สินค้าระหว่างรถยนต์กับรถไฟ ทำให้สินค้าต้องบรรทุกรถยนต์เข้าทางถนนชั่วคราว (ประตู2) เพื่อไปขนถ่ายขึ้นรถไฟฝั่งมาเลเซีย และไม่มีพื้นที่เพียงพอเพื่อหยุดขบวนรถไฟที่บรรทุกรถสินค้าและผู้โดยสาร ขาเข้า-ขาออก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ศุลกากร ตม. ตรวจสินค้า และผู้เดินทางระหว่าฃประเทศ ขณะเดียวกัน ลานจอดรถบรรทุกสำหรับสินค้าส่งออกทางบกก็ไม่เพียงพอ ทำให้รถติดบริเวณ หน้าด่านฯ 2-5 กิโลเมตร อีกทั้ง ด่านยังต้องจ่ายค่าเช่าที่ดินให้กับเทศบาลและการรถไฟแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ ประเทศมาเลเซียยังมีแผนจะเปลี่ยนช่องทางขนส่งสินค้า เข้า - ออก เพื่อเชื่อมต่อไปยังสถานที่ตรวจและขนถ่ายสินค้าแห่งใหม่โครงการ Chuping Valley Industrial AREA (CVIA)
ด้วยเหตุนี้ จึงอยากให้"การรถไฟแห่งประเทศไทย"หรือ รฟท. มีการพัฒนา หรือ สนับสนุนให้ภาคเอกชนสามารถลงทุนในพื้นที่ที่มีการเชื่อมโยงการคมนาคมทางบกและทางรางได้ รวมทั้งพัฒนาสถานีรถไฟปาดังเบซาร์ฝั่งไทยให้เป็นสถานีรถไฟระหว่างประเทศ พร้อมขอให้ รฟท. และเทศบาล สนับสนุนพื้นที่ในการสร้างลานตรวจสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับจุดผ่านแดนแห่งที่ 2 (ขนานทางรถไฟ) ตลอดจนสร้างถนนเพื่อรองรับจุดเชื่อมต่อใหม่ หรือ เจรจาเปิดจุดผ่านแดนถาวรแห่งที่ 2 ขนานทางรถไฟ (ปาดังเบซาร์) และงดเว้นค่าเช่าที่
