4 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง กรมราชทัณฑ์ ได้พักโทษ และปล่อยตัว นายบุญทรง เตริยาภิรมย์อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้ต้องขังคดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบจีทูจี (โครงการจำนำข้าว) เมื่อวันที่2 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา เนื่องจากเข้าเงื่อนไข และหลักเกณฑ์การพักโทษ โดย นายบุญทรง ได้รับการพักโทษ และจะถูกคุมประพฤติ อีก 3 ปี 5 เดือน ซึ่งเจ้าหน้าที่จากกรมคุมประพฤติได้เข้าไปติดกำไลอีเอ็มให้ นายบุญทรง ตั้งแต่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แล้วก่อนมีการปล่อยตัว
ทั้งนี้ หลังจากดำเนินการติดตั้งกำไล EM เสร็จ นายบุญทรง ได้เดินทางกลับจังหวัดเชียงใหม่ทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นัดนายบุญทรง เข้าไปรายงานตัวครั้งแรกในวันที่ 4 ธันวาคม 2567 นี้ เพื่อไปรับทราบขั้นตอนการพักโทษหลังจากนี้ว่าจะต้องไปรายงานตัวในวันใดบ้าง ตามโทษที่เหลืออยู่ คือ 3 ปี 5 เดือน และระหว่างนี้ก็จะติดกำไลอีเอ็ม และคุมประพฤติอยู่ที่บ้านพักที่ จ.เชียงใหม่
กระทั่ง เวลา 08.35 น. วันนี้ (4 ธ.ค.2567) นายบุญทรง พร้อมด้วย นายเดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ บุตรชาย ได้เดินทางมาที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเข้าไปรายงานตัว โดยใช้เวลาประมาณ 25 นาที ตามขั้นตอน ก่อนจะลงมาขึ้นรถ ที่บริเวณด้านหลังสำนักงานกลุ่มคุมประพฤติจังหวัดเชียงใหม่
และระหว่าง ที่นายบุญทรง เดินขึ้นรถ ผู้สื่อข่าว สอบถาม ว่า จังหวัดเชียงใหม่ อากาศดีไหม นายบุญทรง ก็พยักหน้าพอถามอีกว่า สบายดีไหม ก็พยักหน้า โดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด ก่อนจะเดินทางไปทำบัตรประชาชนใหม่ และจะเดินทางกลับบ้านพักที่ตำบล วัดเกตุ อำเภอเมืองเชียงใหม่
ขณะที่ นายเดชนัฐวิทย์ บุตรชาย กล่าวเพียงสั้นๆว่า ระหว่างนี้ นายบุญทรง ขอยังไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ จะขอใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัวเป็นหลัก
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปหา นายเดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ ลูกชายของนายบุญทรง เปิดเผยข้อมูลว่า ตอนนี้พ่อได้กลับมาอยู่บ้านที่เชียงใหม่ หลังต้องรับโทษในเรือนจำ แต่ยังมีเงื่อนไขคือต้องมารายงานตัวกับสำนักงานคุมประพฤติทุกๆ 1 เดือน เป็นระบะเวลา 1 ปี และห้ามออกนอกจังหวัดเชียงใหม่
ส่วนหากครบแล้วก็เป็นดุลยพินิจของสำนักงานควบคุมความประพฤติ ที่อาจจะ เพิ่มระยะเวลาในการเดินทางมารายงานตัว เช่น 2 เดือนครั้ง
ขณะที่ การรักษาตัวเกี่ยวกับอาการหมอนรองกระดูกที่จะต้องเดินทางไปรักษานั้น เนื่องจากแพทย์ประจำตัวอยู่ที่กรมราชทัณฑ์ที่กรุงเทพมหานคร ต้องขออนุญาต ก่อน 7 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้สัญญาณ เตือนในระบบ
ทั้งนี้ ลูกชายได้พูดถึงเรื่องกำลังใจของพ่อว่าตอนนี้ดีขึ้นมาก และดีใจที่ได้กลับบ้านมาอยู่กับครอบครัว ต่อจากนี้ ยังจะไม่อนุญาติให้ใครเข้าพบไปอีกระยะหนึ่งขอให้พ่อได้พักผ่อน และรักษาตัวไปก่อน ทั้งแกนนำทางการเมืองที่เคยสนิทกันก็ยังขอไว้ก่อน
หลังจากนี้หากพร้อมแล้วก็จะให้พบ นอกจากนี้แล้วพ่อยังเปรยๆ ว่ามีความตั้งใจอาจจะบวช แต่ตอนนี้ยังติดที่ยังไม่สามารถบวชได้ แต่หากพ้นโทษแล้ว ก็อาจจะขอบวช เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจต่อไป