นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวภายหลังเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารราชการส่วนจังหวัด หรือ นายก อบจ.12 จังหวัดในนามพรรคประชาชน ยืนยันว่า ผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคฯ ทุกคน คือคนที่อาสาเข้ามาพัฒนาพื้นที่ในระดับท้องถิ่น เพื่อทำให้ประเทศไทย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม และตนมีความมุ่งมั่นตั้งใจ และภาคภูมิใจ ที่ได้เห็นกระบวนการคัดสรรว่าที่ผู้สมัครของพรรคฯ ที่หลายคนมีประสบการณ์การทำงานท้องถิ่นมาก่อน มีความรู้ความสามารถที่ พร้อมเข้าไปทำงานให้กับประชาชนได้ทันที
นายณัฐพงษ์ ยังขอโอกาสจากประชาชน ให้กับผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคฯ ที่อาสาเข้ามาทำงานทางการเมือง และเชื่อว่า การได้นายก อบจ.ที่มาจากประชาชน ทำงานอย่างตรงไปตรงมา มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพในการทำงาน มีความเป็นประชาธิปไตย ทุกโครงการทุกการใช้จ่ายงบประมาณ ฟังเสียงของประชาชน จะช่วยทลายปัญหาเชิงโครงสร้างในอดีตเริ่มจากฐานราก ในแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง เพื่อโยงกลับมาที่คำว่า ประชาชน พร้อมเชื่อว่า พรรคประชาชนได้เปิดประตูความหวัง และความฝันให้กับหลาย ๆ คนที่เข้ามาร่วมเดินทางกับพรรคฯ ได้ และการเมือง จะดีกว่านี้ได้ ถ้าการเมืองเป็นของประชาชน
ส่วนหากพรรคเพื่อไทย จะใช้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงนายก อบจ.ในพื้นทีอื่น ๆ เหมือนการเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรฯ ด้วยนั้น นายณัฐพงษ์ มองว่า ไม่อยากให้มองเรื่องนี้ เป็นเรื่องตัวบุคคล เพราะไม่ว่าจะเป็นนายทักษิณ ใครหรือพรรคใดก็ตามที่จะมีผู้ช่วยหาเสียง แต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน คือ การได้รับฟังข่าวสาร และนโยบายอย่างกว้างขวางมากขึ้น และยินดีหากจะมีแกนนำพรรคอื่น ๆ ลงมาช่วยหาเสียงระดับท้องถิ่น ที่จะทำให้การเลือกตั้ง อบจ.คึกคักมากขึ้น
ส่วนกังวลหรือไม่ในการลงพื้นที่ของนายทักษิณ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมั่นใจกระแสดี และรัฐบาลยังจะมีนโยบายประชานิยมออกมาอีกด้วยนั้น นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า ไม่ได้กังวล และยังมั่นใจอยู่ว่า พรรคประชาชนจะมีโอกาสสูงที่จะได้รับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานีในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ และขอให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง
นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวถึงนโยบายการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่มักจะถูกนำมาโจมตี พรรคประชาชนว่า จากการนำเสนอนโยบาย ไม่ได้มีการพูดถึงนโยบายนี้ ส่วนข้อพิพาททั้งหลายนั้น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็น และไม่ใช่เงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งที่แล้วด้วย จึงยืนยันว่า ไม่มีประเด็นนี้แน่นอน
ส่วนกรณีที่ผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคประชาชนส่วนหนึ่ง เคยทำงานให้กับ คสช.จะขัดกับจุดยืนของพรรคหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ ได้ปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็น และชี้แจงว่า ตัวผู้สมัครได้ตอบบนเวทีไปชัดเจนเพียงพอแล้ว
ส่วนกรณีแกนนำเพื่อไทย ระบุพรรคประชาชนชกใต้เข็มขัดนั้น นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า ไม่ใช่การชกใต้เข็มขัด แต่เป็นการใช้สิทธิ์ เพราะก่อนหน้านี้ พรรคประชาชนถูกพาดพิง จึงถือว่า เป็นการชี้แจงกลับ ซึ่งในสนามเลือกตั้ง ทุกคนที่ถูกพาดพิง ต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ
นายณัฐพงษ์ ยังยืนยันถึงตั้งเป้าหมายในการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ว่า อย่างน้อยทุกภูมิภาค พรรคฯ จะต้องชนะนายก อบจ.ภูมิภาคละ1 แห่ง ส่วนปัจจัยรองอื่น ๆ จะต้องมีการวิเคราะห์ ทั้งเรื่องผลคะแนนเลือกตั้ง และคู่แข่งในพื้นที่ด้วยต่อไป
ขณะที่ นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคฯ ย้ำว่า พรรคฯ ต้องการชัยชนะทุกภูมิภาค และเชื่อมั่นว่า พรรคฯ จะมีนายก อบจ.ทุกภูมิภาค