svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

นายกฯ ย้ำบนเวที APEC ชูศักยภาพประเทศไทยดึงดูดนักลงทุน

นายกฯ ย้ำบนเวที APEC ชูศักยภาพประเทศไทยดึงดูดนักลงทุนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ ทั้ง Data Center และ AI พร้อมดัน FTA สร้างรายได้ใหม่

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สรุปภาพรวมภารกิจการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู โดยได้ชื่นชมประเทศเปรู ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมAPEC ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ของเปรู โดยไทยได้เป็นเจ้าภาพเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา สำหรับการประชุมครั้งที่ 31 นี้ มีหัวข้อหลัก เช่นการเสริมสร้างพลังการมีส่วนร่วม และการเติบโตที่ยั่งยืน (Empower Inclusive Growth) เพื่อให้สมาชิกเติบโตไปพร้อม ๆ กัน

 

นอกจากนี้ ยังมีการขับเคลื่อนการลงทุน และผลักดันให้เกิดการค้าเสรี หรือ FTA และส่งเสริมเรื่องนวัตกรรมดิจิทัล และการเติบโตที่ยั่งยืน ซึ่งตรงกับนโยบายที่ไทยกำลังผลักดันอยู่ในขณะนี้

 

ทั้งนี้ สมาชิกเขตเศรษฐกิจ APEC มีแนวทางเดียวกันในการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability) ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาพลังงานแห่งอนาคตที่ยั่งยืน และวิธีการรับมือกับอุปสรรคและปัญหาจากภัยธรรมชาติ การนำเทคโนโลยีที่แต่ละประเทศมีไม่เหมือนกัน มาสนับสนุนและแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเวทีการหารือกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค (ABAC Dialogue with APEC Economic Leaders ) ว่า เป็นส่วนสำคัญ โดยได้คุยกับนักธุรกิจระดับผู้นำแต่ละเขตเศรษฐกิจ อาทิ พลังงาน รถยนต์ไฟฟ้า และ AI ซึ่งหลายบริษัท สนใจลงทุนในประเทศไทยมาก และได้เชิญชวนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยโดยเน้นไปที่เทคโลโลยี AI  Semiconductor และ Data center และยังได้พูดคุยกับเอกชนยักษ์ใหญ่ 3 บริษัท ประกอบด้วย Tiktok, Microsoft และ Google  ที่แจ้งว่า สนใจที่จะมาลงทุนในประเทศไทยเพิ่ม

 

“การลงทุนอย่าง Data center จะทำให้คนไทยเกิดการจ้างงานแบบใหม่ ๆ ซึ่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ของไทยตอนนี้ เติบโตไม่เต็มศักยภาพ การหาเม็ดเงินใหม่ ๆ เข้าประเทศ จะให้คนไทยมีรายได้ และมีอาชีพ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไทยจะต้องพัฒนาทุกด้านไปพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินหมื่น การสร้างรายได้ใหม่ ซอฟต์พาวเวอร์ การลงทุน และการหาเม็ดเงิน เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมทั้งประเทศ ซึ่งทุกกรอบการประชุมต่าง ๆ ได้ระบุไปว่า ไทยพร้อมแล้ว ที่จะมุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจ โดยจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านเกษตรกรรมอัจฉริยะ หรือ Smart Farming อย่างแท้จริง” นายกรัฐมนตรี ระบุ

ส่วนการหารือทวิภาคีกับ นางดินา เอร์ซิเลีย โบลัวร์เต เซการ์รา ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเปรู นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอชี่นชมเปรูในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคปี 2024 นี้  ยืนยันว่า ไทยพร้อมที่จะทำงานร่วมกันโดยเฉพาะการเจรจาการค้าเสรี หรือ FTA ระหว่างไทย-เปรู ซึ่งเปรูเพิ่งเปิดท่าเรือชางใค ที่จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการส่งสินค้าเกษตรของไทยได้เป็นอย่างมาก และสามารถเชื่อมโยงกับโครงการแลนด์บริดจ์ของไทยในอนาคตได้อีกด้วย

     

ส่วนการหารือทวิภาคีกับ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ได้พูดคุยถึงความร่วมมือกันในปีหน้าที่ไทย-จีน จะเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ครบรอบ 50 ปี โดยจีนได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ หรือ พระเขี้ยวแก้ว มาประดิษฐานไว้ที่ประเทศไทยในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ และจีนยืนยันที่จะมอบหมีแพนด้ายักษ์มาประเทศไทยอีกครั้ง รวมถึงประเทศไทย พร้อมที่จะเรียนรู้รูปแบบการพัฒนาประเทศของจีน ในการลดความยากจนในประเทศ รวมทั้งเทคโนโลยีต่าง ๆ และได้เชิญชวนให้ภาคเอกชนจีนเข้ามาลงทุนที่ไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งประธานาธิบดีจีนกล่าวยินดี และยืนยันว่า จะส่งเสริมความร่วมมือต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ Online scam ระหว่างกัน และจะสนับสนุนไทยเข้าร่วม BRICS ด้วย

 

นายกรัฐมนตรี ยังมั่นใจว่า ตลอด 3 วัน ถือว่า เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยอย่างมาก เพราะได้แลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้นำแต่ละเขตเศรษฐกิจ ทั้งเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อกัน ขณะเดียวกัน ยังได้ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีโลกด้วยว่า ประเทศไทยพร้อมแล้ว สำหรับการลงทุนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และสมาชิก APEC โดยมั่นใจว่า การได้พูดคุยกัน จะทำให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ  และหาโอกาสให้กับประเทศไทยได้ง่ายขึ้น