10 ตุลาคม 2567 "นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร" อดีตทนายความของอดีตพระพุทธะอิสระ เปิดเผยกับ "เนชั่นทีวี" ว่า กำลังเดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีล้มล้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ตามที่ "นายไพบูลย์ นิติตะวัน" เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชนจริง
โดยเป็นการยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้"นายทักษิณ ชินวัตร" และ "พรรคเพื่อไทย" เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
"นายธีรยุทธ" ขยายความว่า ข้อมูลหลักฐานที่นำไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เป็นพฤติกรรมของนายทักษิณและพรรคเพื่อไทย รวม 6 กรณี ที่ตนเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง 2 ลักษณะด้วยกัน ซึ่งหลังจากยื่นคำร้องแล้วจะแถลงรายละเอียดต่อสื่อมวลชน
เมื่อถามว่า กรณีที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเข้าไปหารือจัดตั้งรัฐบาลที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ในวันที่ 14 สิงหาคม โดยมีข่าวว่าอดีตนายกฯทักษิณเป็นคนเรียกเข้าไป และมีการหารือกันจนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เป็นพฤติการณ์ที่นำไปร้องต่อศาลด้วยหรือไม่นั้น "นายธีรยุทธ" บอกว่า เป็นหนึ่งในหลายๆ พฤติกรรมของอดีตนายกฯ และพรรคเพื่อไทย ซึ่งคิดว่าเข้าข่ายการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ด้วยเช่นกัน
เมื่อซักว่า หลักฐานสำคัญเป็นคลิปลับ หรือ คลิปเสียงตามที่เป็นข่าวหรือไม่ "นายธีรยุทธ"ตอบว่า ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องคลิป แต่หลักฐานตามคำร้องของตนเป็นพยานบุคคลที่มีความหนักแน่น และมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 07.00 น. "นายไพบูลย์ นิติตะวัน" เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้ส่งข้อความผ่านมายังสื่อมวลชน โดยระบุว่า
นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน เดินทางไปยื่นคำร้องขอศาลรัฐธรรมนูญโปรดวินิจฉัยสั่งการให้"นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
# ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วยคำร้อง 65 หน้า และเอกสารประกอบ อีกจำนวน 443 แผ่น รวมคำร้องและเอกสารประกอบชุดละ 508 แผ่น จำนวน 10 ชุด รวมเอกสารทั้งสิ้น 5,080 แผ่น
# เวลา 10.30 น. มีการแถลงข่าวสรุปสาระสำคัญของคำร้องด้วย
อนึ่ง สำหรับรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 บัญญัติว่า "บุคคลจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้
ผู้ใดทราบว่ามีการกระทําตามวรรคหนึ่ง ย่อมมีสิทธิร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทําดังกล่าวได้"
ในกรณีที่อัยการสูงสุดมีคําสั่งไม่รับดําเนินการตามท่ีร้องขอ หรือไม่ดําเนินการภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ได้รับคําร้องขอ ผู้ร้องขอจะยื่นคําร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญก็ได้
การดําเนินการตามมาตรานี้ไม่กระทบต่อการดําเนินคดีอาญาต่อผู้กระทําการตามวรรคหนึ่ง”
"นายธีรยุทธ" กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่วันนี้ไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง เพราะได้ไปยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดมาแล้ว เมื่อวันที่ 24 กันยายน แต่อัยการสูงสุดไม่ได้ดำเนินการใดๆ ภายใน 15 วัน และเมื่อวานครบกำหนด 15 วันแล้ว จึงนำคำร้องมายื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ โดยหลังจากยื่นคำร้องจะเปิดแถลงข่าวอธิบายรายละเอียดทั้งหมด
สำหรับ "นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร" เป็นหนึ่งใน "นักร้อง" ที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน เนื่องจากเคยยื่นคำร้องเรื่องล้มล้างการปกครอง โดยกล่าวหาพรรคก้าวไกลกรณีรณรงค์หาเสียงให้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งมีความหมายเป็นการยกเลิกมาตรา 112 จนศาลรัฐธรรรมนูญสั่งให้พรรคก้าวไกลหยุดการกระทำมาแล้ว และต่อมาได้ยื่นคำร้องซ้ำให้ยุบพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกลถูกยุบในที่สุด