8 ตุลาคม 2567 "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทย ว่า เป็นไปตามวงรอบปกติ เพราะปีนี้ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดว่างกว่า 30 ตำแหน่งและตอนนี้เพิ่งแต่งตั้งได้เพียง 25 ตำแหน่ง เพราะประสบปัญหาภัยธรรมชาติต่างๆมากมาย เราต้องมีตัวจริงเข้าไปทำงานให้ไวที่สุดเพราะการรักษาการมันไม่เต็มไม้เต็มมือ และทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ความอาวุโส ประสบการณ์และความทุ่มเท
ส่วนตำแหน่ง"ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์" ที่เป็นที่จับจ้องนั้น "นายอนุทิน" ถามกลับสื่อมวลชน ว่า แล้วจังหวัดบุรีรัมย์เจริญหรือไม่ล่ะ และคนที่เคยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี หรือลำพูนก็ได้ขึ้นและผู้ว่าราชการในหลายๆจังหวัดก็ได้ขึ้น
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าข้าราชการสายของ "นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ" อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย หลุดออกจากโผการแต่งตั้ง "นายอนุทิน" กล่าวว่า ไม่มีสายใครวันนี้ก็ต้องสายมท.1 ทุกคนที่อยู่ในมหาดไทย ตราบใดที่ "มท.1" ยังอยู่ ก็ต้องเป็นสาย "มท.1" ถึงจะทำงาน ทำนโยบายได้ ไม่มีสายใคร ตนไม่เคยมองใครเป็นสายใคร
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม. ) "นายจิรายุ ห่วงทรัพย์" ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม. ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแต่งตั้ง ข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย ดังนี้
1.ให้ นายขจร ศรีชวโนทัย พ้นจากตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
2.ให้ นายสันติธร ยิ้มละมัย พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง)จังหวัดลำพูน และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
3.ให้ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับสูง) จังหวัดอุบลราชธานี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
4.ให้ นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด( นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดพังงา และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
5.ให้ นายอดิเทพ กมลเวชช์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดพิจิตร และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
6. ให้ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ พ้นจากตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดี (นักบริหาร ระดับสูบสูง) กรมการปกครอง
7.ให้ นายภาสกร บุญญลักษม์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับสูง) จังหวัดปทุมธานี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
8. ให้ นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมโยธาธิการและผังเมือง
9.ให้ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับสูง) จังหวัดบุรีรัมย์ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
10.ให้ นายอังกูร ศีลาเทวากูล พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับสูง) จังหวัดกระบี่
11.ให้ นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับสูง) จังหวัดนครศรีธรรมราช และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับสูง) จังหวัดฉะเชิงเทรา
12.ให้ นายชรินทร์ ทองสุข พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดยโสธร และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดเชียงราย
13.ให้ นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดราชบุรี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดนนทบุรี
14.ให้ นายสมคิด จันทมฤก พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดปทุมธานี
15.ให้ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกปกครองระดับสูง) จังหวัดปราจีนบุรี
16.ให้ นายทวี เสริมภักดีกุล พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับสูง) จังหวัดนครสวรรค์ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดพิษณุโลก
17.ให้ นายศรัณยู มีทองคำ พันจากตำแหน่งผู้ตรวรรวจราชการกระพรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับสูง) จังหวัดเพชรบูรณ์
18.ให้ นายชุติเดช มีจันทร์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดแพร่ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดลำปาง
19. ให้ นายโชตินรินทร์ เกิดสม พ้นจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหาร ระดับสูง)สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสงขลา
20.ให้ นางนิศากร วิศิษฏ์สรอรรถ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดพัทลุง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสมุทรสงคราม
21.ให้ นายนริศ นิรามัยวงศ์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดระนอง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสมุทรสาคร
22.ให้ นายพิริยะ ฉันทดิลก พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดอ่างทอง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสุพรรณบุรี
23.ให้ นายชำนาญ ชื่นตา พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับสูง) จังหวัดสุรินทร์
24.ให้ นายราชันย์ ชั้นหัว พ้นจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดอุดรธานี
25.ให้ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับสูง) จังหวัดอำนาจเจริญ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง)จังหวัดอุบลราชธานี
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม จากบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย รอบนี้ เป็นที่สังเกตว่า หลังจากให้ "นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์" พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับสูง) จังหวัดบุรีรัมย์ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ทำให้ตำแหน่ง "ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์"ว่างลง โดยกระทรวงมหาดไทย ยังไม่มีการเสนอชื่อบุคคลใดเข้ามารับตำแหน่งแทน ในครั้งนี้