เบื้องลึก นายกฯ ตั้ง" ณัฐวุฒิ-อดีตปลัดสปน." นั่ง"ที่ปรึกษาของนายกฯ"
แผนเกลือจิ้มเกลือ เผยเบื้องลึก "นายกฯ" แต่งตั้งลูกหม้อทำเนียบฯ "ธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาศ" อดีตปลัดสปน. และ "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" อดีตรมช.พาณิชย์ ยุค"ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" และอดีต แกนนำนปช. เป็น "ที่ปรึกษาของนายกรัฐนตรี"
7 ตุลาคม 2567 นับเป็นคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ "แพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี ลงนามแต่งตั้ง "นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาศ" อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และ "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ในยุคของ"ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" และอดีต แกนนำ นปช. เป็น "ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี" เพิ่มเติม
ตามคำสั่งระบุ เหตุผลว่า เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินและการขับเคลื่อนงานของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้ทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษาและพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่างๆตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ "นายกฯแพทองธาร" ได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 319 /2567 เรื่องแต่งตั้ง "ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี" ระบุว่า เพื่อให้การประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาลเป็นไปด้วยความถูกต้อง รวดเร็วทันต่อสถานการณ์ และสามารถสร้างความเข้าใจอันดีให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการขับเคลื่อนงานของรัฐบาล อาศัยอำนาจตามความมาตรา 11(6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีจึงแต่งตั้ง "นายจิรายุ ห่วงทรัพย์" ให้ดำรงตำแหน่ง "ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี" เพื่อทำหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของรัฐบาล และอื่น ๆ ตามที่ นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
การลงนามแต่งตั้ง"ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี" เพิ่มเติม รอบนี้ จึงมีนัยทางการเมืองอย่างน่าสนใจ
กล่าวถึง "นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาศ" อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นลูกหม้อของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) มาก่อน แวดวงสื่อมวลชนทำเนียบฯ มักจะเรียกชื่อเล่น "พี่กิ๊ก" หรือ "เดอะกิ๊ก" เพราะมีอัธยาศัยไมตรีอันดีกับข้าราชการและสื่อมวลชน โดยเฉพาะเคยทำงานด้านกฎหมายให้กับ "นายวิษณุ เครืองาม" ตั้งแต่ "นายวิษณุ เครืองาม" เป็นเลขาธิการครม. ก่อนที่มีการขยับตำแหน่ง ตามลำดับขั้น ตั้งแต่ได้รับการขึ้นแท่นเป็นเลขาธิการ ครม. ขยับมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ขึ้นเป็น"ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี" ได้แค่สองปี ก็มาเกษียณอายุราชการ
ก่อนเกษียณอายุราชการ "นายธีระพงษ์" เพิ่งได้รับมอบหมายให้ สปน.เป็นหน่วยงานหลัก ในการติดตามช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ภาคเหนือ จึงเป็นที่คาดหมายว่า "นายธีระพงษ์" จะมาช่วยให้คำแนะนำ ปรึกษาทางด้านกฎหมายของฝ่ายข้าราชการประจำกับฝ่ายการเมือง และประสานหน่วยงานใน"สำนักนายกรัฐมนตรี"แบบไร้รอยต่อ
ด้าน "นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" เป็นที่ทราบกันดีถึงความเป็นนักเคลื่อนไหวตัวตึงตั้งแต่ยุคก่อตั้ง "แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ" (นปช.) หรือ "มวลชนคนเสื้อแดง" เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับ กลุ่ม "นายจตุพร พรหมพันธ์ุ" แต่ปัจจุบัน ทั้งสองแยกทางกันตามวิถีการเมือง
ทุกครั้งของการขึ้นเวทีปราศรัย "นายณัฐวุฒิ" ถือเป็นตัวแม่เหล็ก เรียกแขกมารวมตัวชนิดไม่ลุกออกไปไหน ไม่ว่าจะเป็น การชุมนุมเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทหาร หรือ หลังหมดยุครัฐบาลทหาร "นายณัฐวุฒิ" ก็มาทำหน้าที่ แกนนำหาเสียงให้พรรคเพื่อไทยอีกด้วย
อย่างไรก็ดี เส้นทางการเมืองของนักเคลื่อนไหว ที่เคยทำงานรับใช้อดีตนายกฯทักษิณ ระหว่าง "นายณัฐวุฒิ" กับ "นายจตุพร" แตกต่างอย่างสิ้นเชิง เพราะ "นายณัฐวุฒิ" ได้รับการตบรางวัลจากการเคลื่อนไหว สมัยรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์"ให้ได้รับตำแหน่งถึงระดับรัฐมนตรี จนเป็นที่มาของคำกล่าวตามเวทีปราศรัย "สู้แล้วรวย" ในขณะที่ "นายจตุพร" ต้องเผชิญชะตากรรมกับการต่อสู้คดีความ ไม่ได้มีตำแหน่งแห่งหนทางการเมืองเหมือนนักเคลื่อนไหวเสื้อแดงรายอื่น
ล่าสุด "นายณัฐวุฒิ" ได้เปิด"ร้านอาหารเยี่ยมใต้" ย่านนนทบุรี จนธุรกิจค้าขายเจริญเติบโต มีการขยายธุรกิจ เครื่องดื่มชูกำลัง ก่อนจะได้รับการติดต่อ จาก"นายกฯแพทองธาร" ให้มาเป็น"ที่ปรึกษาของนายกฯ" ในจังหวะที่ กลุ่มมวลชนฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าเป็นกลุ่มของ"นายสนธิ ลิ้มทองกุล" อดีตแกนนำ"พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" (พธม.) หรือ กลุ่มเสื้อเหลือง และ "นายจตุพร" แกนนำกลุ่มคณะหลอมรวมประชาชน ประกาศ รวมตัวเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล"แพทองธาร" โดยเฉพาะ "นายสนธิ" ถึงกับออกมาประกาศก่อนหน้านี้ จะมีการชุมนุมครั้งสุดท้าย กันเลยทีเดียว
ฉะนั้น การแต่งตั้ง "นายณัฐวุฒิ" ให้มาเป็น"ที่ปรึกษาของนายกฯ" แพทองธาร รอบนี้ ปฏิเสธไม่ได้ในการให้คำปรึกษา วางกลยุทธ์ตอบโต้ทางการเมือง และคอยประสานงานมวลชนที่มีการเคลื่อนไหวทั้งนอกทำเนียบ ฯ และ สภา
สำหรับตำแหน่ง "ที่ปรึกษาของนายกฯ" นั้น นายกฯจะแต่งตั้งจำนวนกี่คนก็ได้ โดยไม่ใช่ตำแหน่งกินเงินเดือนประจำ แตกต่างจากตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯที่มีโควต้า เอาไว้ และตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกฯ ไม่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการคป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งช่าติ (ป.ป.ช.)
ปัจจุบัน "นายกฯแพทองธาร" ได้ลงนามแต่งตั้ง "ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี" จำนวน 5 คน ส่วนใหญ่ยังเป็นคนเดิมในยุครัฐบาลเศรษฐา ได้แก่ 1.นายชัยเกษม นิติสิริ 2.นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ 3.นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร 4.นายจักรพงษ์ แสงมณี และ 5.นายเทวัญ ลิปตพัลลภ