25 กันยายน 2567 "นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์" อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย และอดีต สส.พรรคเพื่อไทย นำเอกสารหลักฐานการทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาแสดงต่อสื่อมวลชน กรณีขาดการประชุมของพลเอกประวิตร ว่า ในฐานะประชาชนผู้เสียภาษีให้ประเทศ ยืนยันว่าไม่มีอคติ และสร้างหลักฐานใส่ร้ายป้ายสีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ
แต่มีผู้ร้องเรียนเข้ามาและมีเอกสารทางราชการจากสำนักงานเลขาธิการสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เรื่องการขาดการประชุมของพลเอกประวิตร ซึ่งตัวเองมีสิทธิ์ตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ และต้องขอบคุณนายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ออกกฎระเบียบการทำหน้าที่ สส. ทั้งในเรื่องการใช้บัตรแทนกัน ระเบียบการเข้าประชุมที่ต้องชื่นชมในการออกระเบียบแบบนี้มา
โดยเฉพาะการแตะบัตรลงชื่อเข้าประชุมในเครื่องตรวจบัตร ที่ไม่สามารถทำแทนกันได้ โดยระเบียบในข้อ 14 ระบุไว้ว่า สส.ต้องเสียสละอุทิศตัวให้กับการประชุมสภาฯ นอกจากจะมีเหตุเจ็บป่วยหรือเกิดเหตุสุดวิสัยที่จำเป็นต้องขาดการประชุม
"นายพร้อมพงศ์" กล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎร เป็น 1 ใน 3 เสาหลักในการบริหารประเทศที่ทำหน้าที่สำคัญในการออกกฎหมาย ซึ่งการกระทำพลเอกประวิตร ขัดทั้งระเบียบของสภาผู้แทนราษฎร และยังขัดกับระเบียบของพรรคพลังประชารัฐด้วย
"นายพร้อมพงศ์" ยังได้นำสถิติการเข้าประชุมที่ผ่านมาของพลเอกประวิตร ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 ถึง 19 กันยายน 2567 ที่มีการประชุมทั้งหมด 95 ครั้ง แต่พลเอกประวิตร ขาดประชุม 84 ครั้ง
พร้อมยกตัวอย่างแค่ช่วงวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 ถึง 19 กันยายน 2567 ช่วงระยะเวลา 3 เดือน มีการประชุม 27 ครั้ง แต่การมาประชุม ของพลเอกประวิตรเป็นศูนย์ และ ช่วงวันที่ 13 ธันวาคม 2566 ถึง 3 เมษายน 2567 มีการประชุม 33 ครั้งมาประชุม 4 ครั้ง ขาดประชุม 29 ครั้ง ซึ่งในใบลาอ้าง“ติดภารกิจ” มองว่าเป็นการกระทำที่ไม่คุ้มภาษีประชาชน ไม่ได้ทำหน้าที่ ตัวแทนประชาชนอย่างเต็มที่
"นายพร้อมพงศ์" ยังตั้งข้อสังเกตและฝากไปถึงคณะกรรมการตรวจสอบจริยธรรม สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบว่าการลาแบบนี้อาจเป็นฉากบังหน้า ฉ้อฉล ส่วนตัวจึงมองว่าการกระทำแบบนี้ขัดกับระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และที่ผ่านมายังมีหลักฐานว่าการขาดประชุมแต่ละครั้งของพลเอกประวิตร ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวแทนประชาชนตามเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ อย่างการเปิดบ้านป่ารอยต่อให้บุคคลเข้าอวยพรวันเกิด ,ขาดประชุมแต่ไปประชุมกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ไม่มาทำหน้าที่ สส. และ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก็ลาประชุมไปปิดทองฝังลูกนิมิต
"นายพร้อมพงศ์" กล่าวต่อว่า ทั้งหมดที่กล่าวมามองว่าประเทศชาติและประชาชนเสียผลประโยชน์จากการทำหน้าที่ของตัวแทนประชาชน โดยเฉพาะกฎกติกาของระเบียบสภาผู้แทนราษฎรที่มีระเบียบปฏิบัติกำหนดไว้ ซึ่ง"พล.อ.ประวิตร" จะต้องออกมาชี้แจงต่อสังคม ก่อนเปรยสุภาษิต "อย่าให้ปลาตายตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง" โดยเรื่องนี้ไม่สามารถปล่อยผ่านได้ ต้องตรวจสอบ เพราะหาก สส. 500 คน ทำแบบนี้ทั้งหมด ประเทศไม่สามารถเดินหน้าได้ พร้อมเสนอให "พล.อ.ประวิตร" ลาออกเพื่อให้ สส.ลำดับถัดไปขึ้นมาทำหน้าที่แทน