25 กันยายน 2567 "นางสาวแพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่เมื่อวานนี้น้ำทะลักเข้าตัวเมือง ว่าได้รับรายงานเรียบร้อยแล้ว กำลังวางแผนอยู่ และได้มีการสั่งการ "นายภูมิธรรมเวชยชัย" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไปแล้ว และได้ให้ศปช. ติดตามสถานการณ์อย่างเต็มที่ ซึ่งทั้ง 2 ท่าน ก็ทราบแล้วว่าทะลักเข้ามาในพื้นที่ตัวเมือง
ส่วนจะกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจหรือไม่ "นายกรัฐมนตรี" กล่าวว่าต้องทำการระบายน้ำ และตนก็มีกำหนดการเตรียมจะลงพื้นที่ แต่กำลังดูว่าจะเป็นในช่วงเสาร์หรืออาทิตย์นี้ หรือไม่ จริงๆอยากลงตั้งแต่วันศุกร์ จะได้พูดคุยกับราชการได้ แต่ขอไปเคลียร์งานก่อน กำลังดูอยู่ว่าจะเป็นพื้นที่เชียงใหม่ หรือเชียงราย เพราะตอนนี้ในตัวเมืองเชียงรายก็มีน้ำมาก
นายกฯ ห่วงเชียงใหม่ หลังน้ำทะลักเข้าตัวเมือง
"นายภูมิธรรม เวชยชัย" รองนายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม เปิดเผยว่า วันศุกร์นี้ ( 27 กันยายน 2567 ) นส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรีจะบินไปที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมกันที่สนามบิน เพื่อรับรายงานสถานการณ์อุทกภัย โดยเฉพาะเรื่องการเยียวยาประชาชนในพื้นที่
จากนั้นจะนั่งเครื่องไปที่จังหวัดเชียงใหม่ไปดูเรื่องการบริหารจัดการน้ำ โดยรัฐมนตรีแต่ละท่านจะแยกย้ายไปในแต่ละพื้นที่ "นายภูมิธรรม" และ "นายประเสริฐ จันทรรวงทอง" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะลงพื้นที่ไปยังเขื่อนกิ่วลม ทั้งขณะนี้แจ้งเตือนภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับน้ำ
ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม
"นายภูมิธรรม" กล่าวอีกว่า รองนายกรัฐมนตรีแต่ละท่านแบ่งงานกันทำ ซึ่งแต่ละท่านกำลังทำการบ้านกันอยู่ ซึ่งเมื่อสักครู่ได้มีการเชิญปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีทั้งหมดมานั่งพูดคุยกัน พร้อมย้ำว่า อยากแก้ไขปัญหาให้ประชาชนให้เรื่องทั้งหมดคลี่คลายลงก่อน เพราะขณะนี้ประชาชนมีความต้องการ ประชาชนขาดแคลน ขอเอาใจใส่ประชาชนก่อนจะเป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์ที่สุด
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ "นางสาวแพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 315/2567 มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค จึงมีคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ดังต่อไปนี้
1.รองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประกอบด้วย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ประกอบด้วย เชียงราย น่าน พะเยา และ แพร่ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 ประกอบด้วย กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร และ อุทัยธานี
2. รองนายกรัฐมนตรี(นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 บึงกาฬ หนองบัวลำภู เลย อุดรฯ หนองคาย กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 นครพนม สกลนคร มุกดาหาร กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์
3. รองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล ) กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการ กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 ประจวบคิรีขันธ์ สมุทรสงคราม เพชรบุรี สมุทรสาคร กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง สตูล กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน นราธิวาส ปัตตานี ยะลา
4. รองนายกรัฐมนตรี ( นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค) กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการ กลุ่มจังหวัดภาคกลางกลางตอนบน ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง กลุ่มจังหวัดภาคกลางกลางตอนล่าง 1 กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ชุมพร พัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา
5. รองนายกรัฐมนตรี ( พิชัย ชุณวชิร ) กลุ่มจังหวัดภาคกลางปริมณฑล นนทบุรี นครปฐม สมุทรปราการ กลุ่มจังหว้ดภาคตะวันออก 1 ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว
6. รองนายกรัฐมนตรี (ประเสริฐ จันทรรวงทอง) กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ยโสธร ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี