นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.กล่าวถึงกรณีที่มีผู้เสียหายจากการซื้อทอง ที่ร้านแม่ตั๊กว่า เบื้องต้น ยังไม่มีผู้เสียหาย เข้ามาร้องเรียนต่อ สคบ.แต่ทราบว่า มีผู้เสียหายจำนวนมาก จึงได้สั่งการให้ สบค.ดำเนินการในเชิงรุก เพราะ สคบ.มีกฎหมายสำหรับการตรวจสอบ ทั้งการโฆษณา และฉลากสินค้า รวมถึง สคบ.จะเชิญผู้เสียหาย และผู้ประกอบการ หรือ แม่ตั๊ก มาให้ข้อมูล และข้อเท็จจริงด้วยเช่นกัน นอกจากนั้น การซื้อขายดังกล่าวเกิดขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม หรือ TikTok ที่ได้จดทะเบียนแบบขายตรงกับ สคบ.ก็จะเชิญแพล็ตฟอร์มดังกล่าว เข้ามาให้ข้อมูลเช่นเดียวกันด้วย
นอกจากนั้น ในวันนี้ (24 ก.ย.) สคบ. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบร้านทองดังกล่าว เพื่อเก็บข้อมูลด้วย และจะได้นัดผู้เสียหาย เจ้าของร้าน และแพล็ตฟอร์มเข้ามาให้ข้อมูลกับ สบค.อีกครั้ง ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้
ส่วนกรณีที่มีประชาชนผู้เสียหายต้องการขายทองคืนร้านจำนวนมาก หากร้านไม่สามารถรับซื้อทองคืนได้หมด สบค.จะมีแนวทางในการช่วยเหลืออย่างไรได้หรือไม่นั้น นางสาวจิราพร ระบุว่า หากมีการซื้อขายบนแพล็ตฟอร์มซึ่งได้มีการจดทะเบียนไว้อยู่แล้ว ก็จะมีกฎหมายคุ้มครอง สามารถคืนสินค้าได้ภายใน 7 วัน หากสินค้าไม่ตรงปก หรือไม่พอใจ แต่หากเกิน 7 วัน และพบภายหลังว่า สินค้าไม่ได้มาตรฐาน ก็จะเป็นหน้าที่ สคบ.เข้าไปช่วยตรวจสอบเพิ่มเติม
ส่วนกรณีที่หากผู้ประกอบการพยายามหลบเลี่ยงกฎหมาย มายืนยันชัดเจนตั้งแต่ต้นเป็นทองเปอร์เซ็นต์ หรือทองปลอมนั้น นางสาวจิราพร ย้ำว่า จะต้องเข้าไปตรวจสอบการโฆษณาว่า ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสินค้า หรือมีกาารจัดโปรโมชันส่งเสริมการขายที่ผิดกฎกระทรวงหรือไม่ ซึ่งหากผิดก็จะมีการลงโทษ ทั้งปรับ หรือจำคุก แต่เบื้องต้น ผู้เสียหายจำนวนมาก ได้ไปแจ้งความเพื่อเอาผิดทางอาญา หรือเอาผิดฐานฉ้อโกงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่ก็สามารถมาร้องเรียนกับ สคบ.ได้อีกทางหนึ่ง เพื่อรับการคุ้มครอง พร้อมเตือนขอให้ผู้บริโภคเลือกซื้อทองที่ร้านที่เชื่อถือได้