svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"พปชร."เปิดเกมแรง ดัน"สนธิรัตน์"ระดมกูรูศก.ถล่ม "นโยบายรัฐบาลแพทองธาร"

"พลังประชารัฐ" ผุด "ศูนย์นโยบายและวิชาการ" จับตา "สนธิรัตน์" นำมือดีศก. สนับสนุนการทำงาน สส. ในสภา ประเดิมชำแหละ"นโยบายเงินหมื่นดิจิทัล" เป็นพายุหมุนหรือฝนหลงฤดู​ 

17 กันยายน 2567   "พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย"  กรรมการบริหารและโฆษกพรรค แถลงผลการประชุมพรรค ว่า ที่ประชุมมีการประชุมพิจารณาการจัดตั้ง "ศูนย์นโยบายและวิชาการ" ของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อรวบรวมข้อมูลในการจัดทำนโยบายในการขับเคลื่อนพรรคสู่การเป็นสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็ง ที่พร้อมดูแล ปัญหาของประชาชนในทุกมิติ

\"พปชร.\"เปิดเกมแรง ดัน\"สนธิรัตน์\"ระดมกูรูศก.ถล่ม \"นโยบายรัฐบาลแพทองธาร\"

รวมทั้งยังสนับสนุนให้พรรคมีบทบาทในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเน้นการวางรากฐานด้านนโยบายและวิชาการอย่างเป็นระบบ ควบคู่ไปกับการเชื่อมโยงกับบุคลากรภายนอกพรรค เพื่อระดมสมองแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็น ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของศูนย์ฯ รวมทั้งวิเคราะห์สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ ของประเทศไทยและต่างประเทศ รวมทั้งรับฟังปัญหา ความต้องการของประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อนำมาสนับสนุนการพัฒนานโยบายของพรรค เพื่อประชาชนและพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ  หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

 

นอกจากนี้ จะมีการจัดเวทีวิชาการเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และนโยบายเรือธงของรัฐบาล ตลอดจนประสานงานกับภาคีเครือข่ายภายนอก เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนานโยบายของพรรค โดยมี "นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" เป็นหัวหน้าศูนย์วิชาการฯ 

 

ส่วน "นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล" และ "นายอุตตม สาวนายน"  จะเป็นทีมงานหลักในศูนย์วิชาการฯ ขณะเดียวกัน พรรคยังตั้งให้ "นายสุธรรม จริตงาม" และ "นายอัคร ทองใจสด" เป็นวิปฝ่ายค้านและเป็นผู้ประสานงานกับพรรคฝ่ายค้านอื่น (วิปฝ่ายค้าน) เพื่อทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

"สนธิรัตน์​" เปิดฉากชำแหละ "ดิจิทัลวอลเล็ต" เป็นพายุหมุนหรือฝนหลงฤดู​ 


"นายสนธิรัตน์​ สนธิจิรวงศ์" กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้าศูนย์นโยบายและวิชาการ ของพรรค กล่าวชำแหละนโยบายรัฐบาล ในฐานะฝ่ายค้าน​ ว่า​ วันนี้ ​ดิจิทัลวอลเล็ตผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว และถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เพราะเป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล แต่สิ่งที่เราไม่สบายใจคือโครงการนี้​เดินอยู่บนความไม่แน่นอนของรัฐบาล​ ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบโครงการหลายครั้ง จนสุดท้านมีการแจกเป็นเงินสด​ ซึ่งแตกต่างกับที่หาเสียงไว้ว่าเป็น ดิจิทัลวอลเล็ต มีคำถามตามมาว่า​เรื่องนี้ถูกต้องหรือไม่ แต่สิ่งที่เห็นด้วยมาตลอดคือการแจกให้กับกลุ่มเปราะบาง​ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกันกับที่พรรคพลังประชารัฐ​ ใช้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2561 มันชัดเจนว่า​ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กลายเป็นโครงสร้างหลัก และหวังเป็นอย่างยิ่ง​ ว่า​ จะให้ความสำคัญกับร้านธงฟ้าประชารัฐด้วย​

 

"นายสนธิรัตน์​ สนธิจิรวงศ์" กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้าศูนย์นโยบายและวิชาการ ของพรรค

ส่วนเรื่องที่รัฐบาลหวัง​ว่า​ จะเป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจ ผลักดัน GDP ได้ 0.35 % ต่อปี​ คำถามคือ​มันจะเป็นพายุหมุนที่คุ้มค่ากับงบประมาณที่เสียไปหรือไม่​ หรือสุดท้ายมันจะเป็นแค่ฝนหลงฤดู สิ่งที่เราจะตรวจสอบต่อไปคือ​ โครงการนี้ลดการเติบโตในด้านอื่นๆหรือไม่

 

"สุดท้ายด้วยความเป็นห่วงในโครงการนี้​ มีผู้ลงทะเบียนถึง 36 ล้านคน รัฐบาลสัญญาว่าจะดำเนินการให้แน่นอน แต่มันกลับมีเครื่องหมายคำถาม ว่าจะทำอย่างไร​ ทำวิธีใด​และสำคัญที่สุดงบประมาณมันจะมาจากไหน พรรคพลังประชารัฐอยากเห็น โครงการเรือธงของรัฐบาลเป็นโครงการที่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ได้ ไม่อยากเห็นโครงการเรือธงกลายเป็นโครงการเรือล่ม​ ออกสตาร์ทแค่ปากอ่าว แต่ไปได้ไม่ไกล"  นายสนธิรัตน์ กล่าว

 

\"พปชร.\"เปิดเกมแรง ดัน\"สนธิรัตน์\"ระดมกูรูศก.ถล่ม \"นโยบายรัฐบาลแพทองธาร\"

\"พปชร.\"เปิดเกมแรง ดัน\"สนธิรัตน์\"ระดมกูรูศก.ถล่ม \"นโยบายรัฐบาลแพทองธาร\"

\"พปชร.\"เปิดเกมแรง ดัน\"สนธิรัตน์\"ระดมกูรูศก.ถล่ม \"นโยบายรัฐบาลแพทองธาร\"

\"พปชร.\"เปิดเกมแรง ดัน\"สนธิรัตน์\"ระดมกูรูศก.ถล่ม \"นโยบายรัฐบาลแพทองธาร\"

"พลตำรวจโท ปิยะ ต๊ะวิชัย" โฆษกพรรค กล่าวว่า ถ้าพายุหมุน 3 ลูก หมุนได้ 3 รอบจริงๆ เหมือนที่รัฐบาลโฆษณาไว้ตั้งแต่แรก ใครได้ประโยชน์ ใครเสียประโยชน์ และมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคนในรัฐบาล 3 บริษัทหลักๆ มีอักษรย่อแต่ละบริษัทคือ B M X  ซึ่งรายละเอียดต้องติดตามในสัปดาห์ต่อไป