วุ่นแล้ว! โผ ครม.ฝุ่นตลบ ชื่อรัฐมนตรี “ตกคุณสมบัติ” อื้อ

กลายเป็นข่าวฮือฮาที่สร้างความตื่นตะลึงไปทั้งวงการการเมือง หลังจาก “อดีต สว.ตัวตึง” สมชาย แสวงการ ออกมาโพสต์ข้อมูลว่า มีแคนดิเดตรัฐมนตรี “สอบตกคุณสมบัติ” โดยเฉพาะ “มาตรฐานจริยธรรม” ซึ่งเข้มสุดๆ หลังศาลรัฐธรรมนูญวางบรรทัดฐานเอาไว้ มากถึง 11 คน

หลังมีข่าวออกมา ปรากฏว่าคนในแวดวงการเมืองเช็คข่าวกันวุ่นวาย รวมถึง"เนชั่นทีวี"

และข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข่าวหลายแหล่ง ค่อนข้างสอดคล้องกันว่า การตรวจสอบคุณสมบัติ “แคนดิเดตรัฐมนตรี” มีปัญหาจริง แต่ไม่มากถึง 11 คน

แหล่งข่าวระดับ สส.พรรคเพื่อไทย ให้ข้อมูลว่า ทราบข่าว “แคนดิเดตรัฐมนตรี” มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติจำนวนหนึ่ง โดยเป็นรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย กับรวมไทยสร้างชาติ ส่วนรัฐมนตรีโควตาพรรคเพื่อไทยยังไม่มีการยืนยันอย่างชัดเจน  

เผย 5+1 รายชื่ออ่อนไหว ชื่อติดใน ป.ป.ช. - ถูกสังคมมองมาเฟีย

ขณะที่แหล่งข่าวซึ่งเป็นหนึ่งใน “ทีมตรวจคุณสมบัติ” ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แคนดิเดตรัฐมนตรีที่มีปัญหา มีทั้งสิ้น 6 คน แต่ทั้งหมดไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมาย กล่าวคือไม่ได้มีคุณสมบัติขัดกับที่บ้ญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 

ขณะเดียวกันก็ไม่ถึงขั้นมีลักษณะต้องห้ามตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติอย่างชัดเจนเช่นกัน เพียงแต่มีประเด็นเรื่องการรับรู้ของ “วิญญูชน” และ “ผู้คนในสังคม” ว่าอาจมีปัญหาเรื่องจริยธรรม หรืออาจไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์เท่านั้น 

เรื่องนี้จึงเป็นการวัดใจนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ว่าจะกล้า “ลุยไฟ” ตั้งรัฐมนตรีกลุ่มนี้ให้ดำรงตำแหน่งจริงๆ หรือไม่ 

โดยแคนดิเดตรัฐมนตรี 6 คน แยกเป็น 2 กลุ่มคือ 5+1 

5 คนแรก เป็นกลุ่มที่มีคำร้องหรือข้อกล่าวหาอยู่ในคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในชั้นไต่สวน ยังไม่ได้ชี้มูลความผิดใดๆ มีเพียงคนเดียวที่ชี้มูลความผิดทางวินัยไปแล้ว คือ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ สมัยดำรงตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร. กรณีไม่ได้ทำความเห็นแย้ง “คำสั่งไม่ฟ้อง” นายบอส อยู่วิทยา ในคดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิต แต่การถูกชี้มูลความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ไม่เข้าข่ายขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีตามกฎหมาย 

ส่วนอีก 4 คนที่เหลือ เป็นกลุ่มที่มีคำร้องอยู่ใน ป.ป.ช. มีทั้งแคนดิเดตรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ เช่น “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช.ออกมาบอกเองว่า มีคำร้องอยู่ในชั้นไต่สวน ซึ่งภายหลัง “เนชั่นทีวี” ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจนทราบว่าเป็นข้อกล่าวหา “ลักลอบค้าน้ำมันเชื้อเพลิงในพื้นที่ภาคใต้“ 

ส่วนอีก 1 คน ซึ่งไม่ได้อยู่ในกลุ่ม 5 คนแรก คือ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย โดยแม้ นายชาดา ไม่มีคดีความใดๆ ที่พิสูจน์แล้วว่ามีความผิด แต่นายชาดา อาจมีปัญหาเรื่องการรับรู้ของวิญญูชนเกี่ยวกับพฤติกรรมการเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ภาคกลางตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดอุทัยธานี และใกล้เคียง 

งานนี้จึงต้องวัดใจ “นายกฯแพทองธาร” เช่นเดียวกันว่าจะตัดสินใจเสนอชื่อนายชาดา และแคนดิเดตทั้งหมด 6 คนเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ 

ส่วน "เสี่ยต่อ" เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีข่าวว่าได้โควตา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบคุณสมบัติตามกฎหมายแล้ว ไม่พบปัญหาใดๆ เพราะคดีหมูเถื่อนก็ไม่ได้ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา มีเพียงเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับการที่เจ้าตัวเคยประกาศเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต แต่มากลืนน้ำลายตัวเองเท่านั้น ซึ่งในทางกฎหมายไม่เข้าข่ายเป็นความผิด

จ่อนำชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ คาดแถลงนโยบาย 16-17 ก.ย.

มีรายงานด้วยว่า ภายในสัปดาห์หน้า “นายกฯแพทองธาร” จะนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ และได้มีการประสานเป็นการภายในเกี่ยวกับกำหนดการต่างๆ แล้ว คาดว่าจะสามารถแถลงนโยบายต่อสภาได้ราวๆ วันที่ 16-17 กันยายน แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับห้วงเวลาของการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ด้วย 

จากนั้นจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษเพื่อเดินหน้าทำงานทันที โดยเฉพาะการแจกเงินหมื่น ในโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ล็อตแรก ให้กับกลุ่มเปราะบางตามที่เคยประกาศเอาไว้