เกิดคำถามว่า พรรคเพื่อไทยได้อะไรจากปฏิบัติการ “ปิดสวิตช์ลุงป้อม” แต่เปิดประตูรับ “พระแม่ธรณี” คู่แค้นข้ามศตวรรษเข้าร่วมรัฐบาล งานนี้กูรูการเมือง มองว่า แทนที่จะ “ได้” กลับ “เสีย” หรือ “เสียมากกว่าได้” เหตุผลเพราะ
1.คำประกาศของ “นายกฯอุ๊งอิ๊ง” และพรรคเพื่อไทย ตอนหาเสียง คือ “ปิดสวิตช์ 3 ป.” ไม่ใช่ปิดสวิตช์เฉพาะ “ป.ป้อม” เพียง ป.เดียว
แต่ความจริงทางการเมือง ณ วันนี้คือ
พรรครวมไทยสร้างชาติทั้งพรรค คือ เงาลุงตู่ ว่าที่ รมช.กลาโหม คนใหม่ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ก็เป็นคนสนิทลุง แถมยัง ตท.20 รุ่นเดียวกับ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ด้วย
2.มวลชนที่ต้องการให้ปิดสวิตช์ 3 ป. ส่วนใหญ่เลือกพรรคส้ม อาจเคยเป็นแฟนเพื่อไทย แต่ด้วยความไม่ชัดเจนก่อนเลือกตั้ง จึงไปเทคะแนนให้พรรคส้ม และจนถึงวันนี้ก็ชัดเจนว่า พรรคส้มไม่จับมือกับ 3ป. จริงๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด
ส่วนเพื่อไทย เคยร่วมรัฐบาลกับ “ลุงป้อม” มานานถึง 1 ปี และมี “น้องชายลุง” นั่งเป็นรัฐมนตรี เพิ่งจะเขี่ยออกไป แถมยังใช้เหตุผลเรื่อง “ผลประโยชน์ทางการเมืองไปกันไม่ได้” ไม่ใช่เรื่องอุดมการณ์ไม่จับมือกับเผด็จการ หรือคนทำรัฐประหาร ตามที่เคยประกาศ
3.ดีด “พลเอก” ออกไป แต่เก็บ “ร้อยเอก” เอาไว้ แถมใช้วิธีตั้งรัฐมนตรีแบบ “เลี่ยงบาลี” งานนี้ประชาชนดูออก
ที่สำคัญ “ร้อยเอก” ไม่ได้ภาพดีกว่า “พลเอก” และคนที่ส่งมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีแทน ก็ไม่ถึงกับ “ดี-เด่น-ดัง” เพราะยังตั้งตามข้อจำกัดและโควตาทางการเมืองเหมือนเดิม
4.การดึงพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล ไม่มีเหตุผลทางการเมืองรองรับเพียงพอ